ดร. ณัฐธัญ มณีรัตน์

หลังจากที่พระกษิติครรภ์สำเร็จธรรมอาณา ณ บริเวณเขากิมฮั้วซัวแล้ว ฝ่ายบุตรท่านคหบดีที่ออกบวชเป็นภิกษุต่อมาได้เป็น ต้าวหมิงเหอซ้าง ได้สร้างรูปเคารพเป็นพระภิกษุยืนอยู่ด้านซ้ายมือของพระกษิติครรภ์ (ภิกษุเจียวเจ) และกาลต่อมาคหบดีเมี่ยงกงก็ได้สละทรัพย์สมบัติออกบวชตามอย่างบุตรชายของตน และได้สำเร็จธรรมเช่นกัน ในกาลต่อมาได้ปรากฏมีรูปเคารพของคหบดีเมี่ยงกง ยืนอยู่ด้านขวาของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
เรื่องราวของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ยังมีกล่าวไว้ในกษิติครรภมูลปณิธานสูตร ว่า กาลครั้งพระตถาคตเจ้าได้ตรัสถึงจรรยานุภาพแห่งพระกษิติครรภ์ ไว้ดังนี้ ” ดูก่อน….ท่านทั้งหลาย ความประเสริฐล้ำเลิศของการถึงที่สุดแห่งทุกข์คือการที่สามารถสำเร็จมรรคผลได้ บรรลุสู่พระอนุตตรสัมโพธิญาณ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เหนือวิสัยจิตวิญญาณของสรรพสัตว์ผู้ยังข้องติดอยู่ในโลก การที่จะหยั่งรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้นับเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง แต่ทว่า ยัง
มีพระมหาสัตว์พระองค์หนึ่งนามว่า พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ มุ่งมั่นช่วยเหลือสรรพสัตว์และรอคอยให้พวกเขาเหล่านั้นสำเร็จมรรคผลทั้งหมดเสียก่อน แล้วจึงตนจึงค่อยบรรลุสู่ปรินิวาณ ปณิธานแห่งการเสียสละเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้”

พระกษิติครรภโพธิสัตว์ไม้แกะ ศิลปะคามากุร
บัดนั้นท่ามกลางมหาสันนิบาตที่ประชุมของบรรดาโพธิสัตว์ เทพยดา คนธรรพ์ นาคและครุฑ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรผู้เปี่ยมด้วยมหากรุณา ได้ทรงประณมพระหัตถ์ถวายอภิวาทพระตถาคต แล้วเสด็จลงจากพระแท่นอาสนะที่ประทับ พร้อมทูลพระบรมศาสดาว่า “ข้าแต่พระสัพพัญญูเจ้า ข้าบาทได้สดับฟังธรรมกถาที่พระองค์และพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแซ่ซ้องสรรเสริญพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์แล้วจึงสามารถกล่าวได้ว่า แม้เทพยดาทั่วหมื่นโลกธาตุมาประชุมพร้อมกันพรรณากิตติคุณของพระมหาโพธิสัตว์พระองค์นี้ ถึงกระนั้นก็ไม่มีวันจะจบสิ้น”
“แลบัดนี้ ข้าบาทใคร่กราบอาราธนาทูลขอให้พระองค์ ได้พรรณาถึงเดชานุภาพของพระมหาโพธิสัตว์พระองค์นี้เพื่อจะยังศรัทธาปสาทะให้เกิดแก่ผู้ที่มาชุมนุมกันในที่นี่ทุกหมู่เหล่าด้วยเถิด พระเจ้าข้า” ในครั้งนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า “ดูก่อน…อารยะ อวโลกิเตศวร ท่านผู้เปรียบด้วยนาวาธรรมแห่งมหากรุณา สรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก ไม่ว่าผู้ใดที่ได้สดับนามของท่านด้วยใจศรัทธา เขาผู้นั้นย่อมสามารถพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ วันนี้อาศัยจิตที่เปี่ยมด้วยมหากรุณาอันไม่มีประมาณต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า ท่านจึงได้ขอให้เรากล่าวพรรณาถึงจรรยานุภาพแห่งพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ ฉะนั้นขอให้ทุกท่านจงตั้งใจสดับเถิด…..เทพยดาทั้งหลาย หากผู้ใดได้เสวยผลบุญจนใกล้จะหมดสิ้น(หมดอายุจากสรวงสวรรค์)แล้วนิมิตหมายแห่งการต้องไปจุติใหม่ก็จะปรากฏ ได้แก่ ฉวีวรรณเกิดเศร้าหมอง ทิพยอาภรณ์ก็มัวหม่นลง เป็นต้น หากเทพยดาผู้นั้นได้เพ่งจิตของตนจนบังเกิดเป็นรูปนิมิตพร้อมทั้งได้ยินพระนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์แล้ว จงรีบน้อมจิตสำรวมใจเอ่ยบริกรรมนามของพระโพธิสัตว์องนั้นด้วยศรัทธาอันมั่นคง เทพยาผู้นั้นกลับมีอายุขัยอันเป็นทิพย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งทิพยสมบัติก็กลับรุ่งเรืองดังเดิม”

ปฏิมากรรมพระกษิติครรภ์ โพธิสัตว์สำริดกะ
ดูก่อนเวไนยสัตว์ที่หลงเวียนว่ายอยู่ในโลกนี้ เมื่อถึงคราวละสังขารใกล้จะสิ้นใจ หากบุคคลผู้นั้นได้สดับพระนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์แม้เพียงสักครั้งหนึ่ง แล้วบังเกิดสติระลึกได้ถึงมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาลของท่าน วิญญาณของเขาก็จะไม่ตกลงสู่ภพภูมิเบื้องต่ำเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบุตรธิดาและญาติพี่น้องของเขาได้นำเอาทรัพย์สินของผู้วายชนม์ออกบริจาคสร้างกุศล หากเขาผู้นั้นยังไม่สิ้นลมอัสสาสะ ปัพผาสะต้องทนทุกข์ทรมานเนื่องจากมีเวรวิบากกรรมตามมาส่งผล แลจักบังเกิดกรรมนิมิตชักนำไปสู่อบายภูมิมีอบายทุกคติเป็นต้น ด้วยอานิสงส์ผลบุญนั้นจะทำให้อาการของเขาทุเลาเบาบางลงได้
หากเป็นบุคคลที่เคยก่อบาปสร้างบาปกรรมเอาไว้ จนต้องไปรับโทษหนักหนาในนรกภูมิ ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่ได้สดับนามพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จะช่วยให้โทษนั้นได้ผ่อนหนักเป็นเบา
ส่วนบุคคลใดที่มีบาปกรรมติดตัวเพียงเล็กน้อย ด้วยอานิสงส์ที่ญาติพี่น้องได้สร้างกุศลอุทิศให้ เขาผู้นั้นก็จะได้ไปสู่สุคติภพโดยง่าย” “บุคคลใดเป็นผู้ที่กำพร้าบิดามารดา ตั้งแต่เยาว์วัยขาดคนอุปการะเลี้ยงดู พ่อแม่ญาติพี่น้องต้องมีอันล้มหายตายจากหรือพลัดพรากกันไป เมื่อโตขึ้นแล้วเกิดจิตสำนึกที่ดี ต้องการสร้างกุศลอุทิศให้และใคร่ได้รู้ถึงที่อยู่ของญาติพี่น้องที่พลัดพรากสูญหาย จะมีโอกาสได้พบเจอกัน (โปรดติดตามตอนจบฉบับหน้าครับ)

พระกษิติครรภประทับบนสัตว์วิเศษ