นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 10
เรื่อง/ ภาพ: ทีมงานนิตยสารอนุรักษ์
ในรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๓ สมัยอยุธยา (ทรงครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๐๗๗ – ๒๐๘๙) ครองราชย์ได้ ๑๒ ปี ขณะที่พระองค์ทรงครองราชย์อยู่นั้น อาณาจักรลานนาไทยเกิดแตกแยกกัน เจ้าผู้ครองหัวเมืองต่างๆแย่งชิงกันเพื่อครองราชย์เป็นกษัตริย์ครองเมืองเชียงใหม่ ในขณะนั้น พระนางจิรประภามหาเทวีเป็นผู้ครองเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองขึ้นแก่กรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้ยกกองทัพไปยังเมืองเชียงใหม่ พระนางจิรประภามหาเทวีออกมาต้อนรับและอัญเชิญเสด็จสู่เมืองเชียงใหม่ พระองค์ประทับอยู่ ๒ เดือนจึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. ๒๐๘๑
ในขณะนั้น พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้แห่งพม่าต้องการขยายอำนาจมายังประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ได้ยกทัพมาตีเมืองเชียงกรานซึ่งเป็นเมืองขึ้นของไทย โดยอ้างเหตุที่ว่าเพื่อติดตามชาวมอญที่อยู่ในเมืองเชียงกราน สมเด็จพระไชยราชาธิราชยกทัพไปตีเอาเมืองเชียงกรานกลับคืนมา นับเป็นครั้งแรกที่ไทยกับพม่าได้ทำศึกสงครามกันเป็นเบื้องต้นและสืบทอดตลอดมา
ส่วนทางเมืองเชียงใหม่สืบต่อมา พระนางจิรประภามหาเทวียอมอ่อนน้อมต่อพม่า สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้ยกทัพขึ้นไปตีเอาเมืองเชียงใหม่ พระนางจิรประภามหาเทวีเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงยอมอ่อนน้อมต่อกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง เมื่อพระองค์เสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาก็สวรรคตในปีนั้นเอง (พ.ศ. ๒๐๘๙)
พระองค์ทรงมีพระราชโอรสองค์หนึ่งพระนามว่า พระยอดฟ้า หรือพระแก้วฟ้า ซึ่งประสูติจากสนมฝ่ายซ้ายคือท้าวศรีสุดาจันทร์ ขณะนั้นมีพระชนมายุได้เพียง ๑๑ พรรษา ซึ่งยังทรงพระเยาว์นัก ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อมาโดยมีท้าวศรีสุดาจันทร์พระมารดา เป็นผู้สำเร็จราชการแทน
ต่อมาท้าวศรีสุดาจันทร์เกิดสมัครรักใคร่กับพันบุตรศรีเทพพราหมณ์ผู้คุมหอพระ พระนางแต่งตั้งให้พันบุตรศรีเทพเป็นขุนวรวงศาธิราช และให้ว่าการแผ่นดิน
บรรดาข้าราชการที่ไม่พอใจเมื่อขุนวรวงศาธิราชปลงพระชนม์พระยอดฟ้าแล้วขึ้นครองราชย์เสียเอง มีขุนพิเรนทรเทพขุนอินทรเทพ หลวงศรียศ และหมื่นราชเสน่หาได้คบคิดกันกำจัดขุนวรวงศาธิราชและนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ทั้งสองพระองค์ แล้วไปเชิญพระเฑียรราชา ซึ่งเป็นพระอนุชาในพระไชยราชาธิราช ที่ทรงหนีไปผนวชเป็นพระภิกษุขณะที่นางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์และขุนวงวงศาธิราชครองเมือง
เมื่อพระเฑียรราชาได้ลาผนวชมาเสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พ.ศ. ๒๐๙๑ – ๒๑๑๑) ครองราชย์ ๒๐ ปี และทรงสถาปนาพระมเหสีเป็นพระสุริโยทัย
ส่วนสมัครพรรคพวกผู้ร่วมขบวนการกำ จัดขุนวรวงศาธิราชและนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ได้รับการปูนบำ เน็จอย่างสูงสุดถ้วนหน้าทุกคน
โดยเฉพาะขุนพิเรนทรเทพซึ่งเป็นหัวหน้า สืบสานมาจากราชวงศ์พระร่วง ได้รับพระกรุณาธิคุณเป็นพระมหาธรรมราชาธิราชขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านฝ่ายเหนือ และได้พระราชทานพระวิสุทธิกษัตรีย์ (พระราชธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระศรีสุริโยทัย) เป็นพระมเหสีอีกด้วย