ดร. ณัฐธัญ มณีรัตน์

หากเขาผู้นั้นมีจิตศรัทธาแรงกล้า สักการะพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันโดยไม่ท้อถอย เช่นนี้แล้ว หากเป็นผู้ที่พ่อแม่ญาติพี่น้องได้ตายไปแล้ว วิญญาณตกลงสู่นรกภูมิถูกจองจำต้องโทษสถานหนักจากกรรมที่สร้างไว้ในยามที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยอานิสงส์จากการกราบไหว้สักการะพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ จะทำให้ดวงวิญญาณของพวกเขาได้รับการปลดปล่อยให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า แต่ถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องของบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ในโลกพวกเขาก็จะได้รับผลานิสงส์ได้รับความสวัสดีรอดพ้นจากบาปเคราะห์ทั้งปวง”
บุคคลผู้ที่พลัดพรากจากบิดามารดาญาติพี่น้องหากสามารถถวายสักการะบูชาและสวดภาวนาพระนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ครบ 1000 จบ ภายในเวลา 21 วันเขาผู้นั้นก็จะได้รับกรุณาจากพระองค์โดยจะได้รู้ถึงที่อยู่ของบิดามารดาญาติพี่น้องที่พลัดพรากและถ้าหากเป็นผู้มีวาสนา ได้บำเพ็ญมาในโพธิสัตวมรรคา พระองค์จะทรงปรากฏในเห็นในนิมิต

อนึ่งผู้ใดสามารถสวดมนต์ภาวนาพระนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์วันละ 1000 จบเป็นเวลา 1000 วันโดยมิได้ขาดแม้สักวันหนึ่ง ด้วยอานุภาพแห่งพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เทพเทวาพระภูมิเจ้าที่จะมาคอยปกป้องดูแลบุคคลผู้นั้น เพื่อให้ชีวิตประสบแต่ความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและท้ายที่สุดเขาจะเห็นศุภนิมิตแห่งพระกษิติครรภ์ ซึ่งเป็นหลักประกันได้ว่าเขาจะไม่จมสู่อบายภูมิในอนาคตชาติเลย
แต่ข้อสำคัญประการหนึ่งคือการสัมภาวนาพระนามของพระกษิติครรภ์นั้นจะต้องเกิดจากจิตศรัทธาเป็นพื้นฐาน มิใช่เกิดจากความโลภใคร่จะได้มาซึ่งความสุขสบาย นอกจากนี้คนผู้นั้นจะต้องดำเนินตามคำสอนของพระพุทธศาสนา รักษาศีลเป็นวัตร ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นทั้งมนุษย์และสัตว์ ช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ตกระกำลำบาก หากกระทำได้ดังนี้การภาวนาจึงจะบังเกิดพลานิสงส์มหาศาล
คติความเชื่อเรื่องพระกษิติครรภ์นี้คล้ายกับเรื่องพระมาลัยของฝ่ายเถรวาทอยู่มากทีเดียว ซึ่งพระมาลัยท่านเป็นพระเถระผู้มีฤทธิ์สามารถลงไปโปรดสัตว์ยังนรกหรือสวรรค์ได้ เล่ากันว่ากาลใดที่ท่านลงไปสู่นรกท่านจะบันดาลให้ไฟนรกที่ร้อนแรงดับลง น้ำทองแดงที่เดือดพล่านกลับกลายเป็นนำผึ้ง ต้นงิ้วและเครื่องลงทัณฑ์ทั้งปวงกลับกลายเป็นรุกขชาติ ทั้งนี้เพื่อให้สัตว์นรกได้ผ่อนพักจากทุกขเวทนา และท่านจักแสดงธรรมโปรดสัตว์เหล่านั้น หากสัตว์ใดมีกรรมเบาบางก็จะสามารถไปจากนรกภูมิได้ทันที แต่เมื่อพระเถระกลับไปสภาพการณ์ก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมด้วยอำนาจกรรมนิยมของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งเรื่องพระมาลัยเถระนี้มีถ้อยความคล้ายกับเรื่องพระกษิติครรภ์เป็นอันมาก
ในกษิติครรภปณิธานสูตรได้แสดงอานิสงค์แห่งการบูชาพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไว้ถึง ๒๘ ประการคือ
1.เทพเจ้าทั้งหลายและเหล่านาคจะปกปักษ์รักษา
2.ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้น
3.เป็นการสร้างทางในการบำเพ็ญบารมีขั้นสูง ทั้งยังถือเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรมบท
4.จะช่วยให้ไม่ท้อถอยในการประกอบกุศลธรรม เพราะพระกษิติครรภ์เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีปณิธานแรงกล้ามาก
5.จะสมบูรณ์ด้วยโภชนาหารไม่อดไม่อยาก 6.เป็นผู้ปราศจากโรคาพยาธิ
7.รอดพ้นจากอุทกภัย อัคคีภัย
8.รอดพ้นจากโจรภัย
9.เป็นที่เคารพยกย่องของมหาชน
10. เทพาอารักษ์คุ้มครองช่วยเหลืออยู่เสมอ
11.สตรีที่บูชาพระองค์จะได้เกิดเป็นบุรุษ
12.จะได้เกิดในตระกูลใหญ่ มีข้าทาสบริวารมากมาย
13.มีร่างกายสมบูรณ์ไม่ทุพพลภาพ
14.เมื่อหมดอายุขัยจะได้อุบัติในแดนสวรรค์
15.จะได้เกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์
16.สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์ในอดีตชาติ
17.คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดั่งปรารถนา
18.ญาติและบริวารย่อมปราศจากทุกข์โศกโรคภัย
19.สิ่งอัปมงคลทั้งหลายย่อมหายหมดสิ้น
20.ไม่ต้องบังเกิดในทุคติภูมิ
21.หากสัญจรไป ที่แห่งใดย่อมได้รับความสะดวกสบาย
22.ในยามหลับย่อมไม่ฝันร้าย
23.บรรพบุรุษและญาติที่ล่วงลับไปแล้วจะได้หลุดพ้นจากทุกคติภูมิ
24.จะเป็นผู้มีวาสนาสูง
25.จะได้รับการยกย่องจากพระอริยเจ้าทั้งหลาย
26.จะเป็นผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ
27.จะเป็นผู้ที่มีจิตเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม
28.จะได้สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด
คนทั่วไปมักมีความเชื่อว่า “พระอวโลกิเตศวรโปรดเฉพาะคนเป็น พระกษิติครรภ์โปรดเพาะคนตาย“ทำให้พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไม่เป็นที่นิยมกราบไหว้ในบ้านเรือน ด้วยเกรงว่าจะเป็นการชักนำดวงวิญญาณให้ตามพระองค์เข้ามาในบ้านด้วย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด
เรื่องของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้จบลงแล้ว ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระโพธิสัตว์ มหาสัตว์พระองค์นั้น ผู้เป็นดังประทีปชวาลาในนิรยภูมิ ยังหมู่สัตว์ผู้ทุกข์ยากให้ให้เข้าถึงธรรม ผู้ใดมาตรว่าเคยประพฤติบาปอกุศล แม้นได้สำนึกผิดในการกระทำนั้น ขอความกรุณาแห่งพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ โปรดชำระมลทินให้หลายให้หมดสิ้นไปเทอญ ขอให้ท่านผู้อ่านได้ลองภาวนาพระนามของท่านดูบ้าง เพื่อจะประจักษ์ในพลานิสงส์เหมือนที่พระสูตรได้พรรณาเอาไว้
“ นำ โม ตี่ จ่าง หว่าง ผู่ สัก” หรือ “งัน ปอ ลา มก เลง ทอ เนง ซอ พอ ฮอ”
(คำภาวนาพระนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์)
