นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 36
เรื่อง: ประเทือง ครองอภิรดี
ภาพ: วัชระชัย ไตรอรุณ
พิพิธภัณฑ์
ล้านของเล่น
เกริก ยุ้นพันธ์
เหมือนเปิดผอบ Time Capsule ควันจินตนาการพวยพุ่งความสนุกสนานในวัยเด็กปรากฏต่อหน้าอีกครั้งบางชิ้นเคยเล่นและเคยมีบางชิ้นเคยอยากได้แต่ไม่เคยมีมากมายสารพัดชนิดจากทุกมุมโลกมีทั้งเก่ามากจนเกิดไม่ทันมีทั้งเก่าน้อยๆ เพิ่งผ่านไปหยกๆ
ในวงการหนังสือวรรณกรรมสำหรับเด็กชื่อของเกริก ยุ้นพันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี หนังสือสำหรับเด็กวัยเริ่มหัดอ่านที่ท่านเขียนเรื่องและวาดรูปประกอบเองนั้น ทั้งสวยงาม น่ารักสนุก สร้างสรรค์ จินตนาการและทักษะการอ่านให้แก่เด็กปฐมวัย มานานร่วม ๔๐ ปีเด็กรุ่นแรกๆ ที่โตมากับหนังสือของท่านป่านนี้ก็โตเป็นหนุ่มสาววัยทำงานแล้ว ผลงานท่านมีมากมาย เช่น บอลลูน กระดุ๊กกระดิ๊กกระด๊อกกระแด๊ก กระต่ายน้อยหนีแม่ และชาวนาไทย เป็นต้น
โดยเฉพาะเรื่อง “ชาวนาไทย” นั้นเป็นหนังสือที่ท่านเขียนระหว่างเรียนอยู่ปี ๒ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรและได้รับรางวัล NOMA ของประเทศญี่ปุ่นเลยได้ทุนของ UNESCO ไปประเทศญี่ปุ่นไปอยู่กินคลุกคลีกับศิลปินวาดภาพประกอบชั้นนำของญี่ปุ่นหลายท่านเป็นเวลา ๓ เดือนเพื่อศึกษาและซึมซับวิธีคิดและวิธีทำงานของท่านและยังมีโอกาสเยี่ยมชม Kitahara Tin Toys Museum เมืองฮาโกเน่ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวเล็กๆ มีของเล่นทำจากแผ่นสังกะสีอยู่ประมาณ ๒๐๐ ชิ้น ดูแล้วถูกจริตประทับใจมาก ด้วยความเป็นนักเขียนภาพประกอบวรรณกรรมเด็ก ก็คิดอยากจะสะสมไว้บ้าง เมื่อกลับมาแล้วก็ใช้เงินที่ได้จากการรับเขียนภาพประกอบ ซื้อของเล่นมาสะสมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเรมิ่ ซอื้ ของเลน่และต๊กุ ตาต่างๆ ขายแบกะดิน ไม่ค่อยมีคนสนใจราคาจึงถูกมาก
หลายปีผ่านไป อาจารย์เกริกซึ่งพื้นเพเป็นคนฉะเชิงเทราแต่มาซื้อที่ผืนนี้ซึ่งอยู่ในเกาะเมืองอยุธยาได้ ในขณะที่มีของเล่นที่สะสม
มาจำนวนพอสมควรแล้ว จึงสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้น ตามความใฝ่ฝันที่ถูกจุดประกายเมื่อครั้งไปดูงานที่ญี่ปุ่น โดยเริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ การสะสมก็คงดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง
ของเล่นในพิพิธภัณฑ์นี้มีมากมายหลายประเภทต้องบอกว่าสมชื่อว่าพิพิธภัณฑ ์ “ล้านของเล่น” ซี่งแปลว่าเยอะเหลือเกิน แม้ว่าถ้านับกันจริงๆ อาจจะไม่ถึงล้านชิ้นก็ตามมีของเล่นจากหลายประเทศทั้งไทย เอเชีย ยุโรป มีทั้งตุ๊กตาทำจากไม้ ดิน เซรามิกกระดาษ และพลาสติกชนิดต่างๆ ตั้งแต่เซลลูลอยด์ ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดแรกของโลกที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้แทนงาช้างในการผลิตลูกบิลเลียด จนกระทั่งถึงพลาสติกต่างๆในสมัยหลังๆ รวมทั้งไฟเบอร์กลาส
ที่นี่นับว่าเป็นแหล่งรวมของเล่นประเภท Tin Toys ไว้มากมายแห่งหนึ่ง ชิ้นที่เก่าแก่ที่สุดอายุร้อยกว่าปีมาแล้ว Tin Toys คือ ของเล่นที่ทำขึ้นจากแผ่นเหล็กบางชุบสังกะสีมาปั๊มขึ้นรูป แล้วนำมาประกบประกอบเชื่อมเข้าด้วยกันให้เป็นรูปร่าง เยอรมันเป็นผู้เริ่มผลิตขึ้นก่อนในสมัยต้นๆ ปั๊มด้วยมือแล้วทาสี เมื่อระบบการพิมพ์เจริญขึ้นก็พิมพ์ด้วยระบบออฟเซต (Off-Set Lithography) ซึ่งให้สีได้สวยงาม พร้อมๆ กับการปั๊มด้วยเครื่องผลิตในระบบอุตสาหกรรม
Tin Toys เมื่อแรกผลิตก็เป็นแค่ตุ๊กตาหุ่นจำลอง ต่อมาก็ใส่เครื่องไขลาน ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว ต่างๆ นาๆ เช่น สัตว์กระโดดได้ล้อหมุนได้ จึงนิยมทำเป็นพาหนะต่างๆรถชนิดต่างๆ ทั้งรถยนต์ รถไฟ รถดับเพลิง รถมอเตอร์ไซค์ รถแข่ง รถยก เป็นต้น เรือต่างๆเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รูปแบบตามยุคสมัยเมื่อเข้าสู่ยุคอวกาศราวๆ ทศวรรษที่ 50’s 60’s (ต้นรัชกาลที่ ๙) ก็จะมีหุ่นยนต์ จรวดจานบินมนุษย์อวกาศ ต่อมาจากเคลื่อนไหวด้วยการไขลานก็พัฒนามาใช้ถ่านและแบตเตอรี่ทำให้มีไฟแว้บๆ ได้ด้วย
เนื่องจากผู้เริ่มผลิต Tin Toys คือเยอรมันดังนั้นบริษัทผู้ผลิตเยอรมันจึงเป็นเจ้าตลาดเรื่อยมา ผู้ผลิตรายใหญ่สุดคือ Ernst Paul Lehmann จนถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑ พอหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ คนต่อต้านเยอรมันไม่ซื้อของเยอรมัน สหรัฐฯ จึงผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะบริษัท Louis Marx and Company
สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีการหยุดผลิตเพราะเอาเหล็กไปทำอาวุธ แต่พอหลังสงครามญี่ปุ่นเริ่มผลิต Tin Toys เพื่อฟื้นฟูประเทศในฐานะผู้แพ้สงคราม กลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่แทนประเทศตะวันตก มีบริษัทอเมริกันเป็นหุ้นส่วน เพราะขณะนั้นต้นทุนแรงงานญี่ปุ่นต่ำแล้วบริษัทอเมริกันเป็นผู้จัดจำหน่ายในอเมริกาบริษัทญี่ปุ่นที่ใหญ่คือ Bandai