Friday, November 15, 2024
ชื่นชมอดีต บทความแนะนำ

ทองคํา…ล้ำเลอค่า

นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 5
เรื่อง: พันธุ์เมธา
ภาพ: พันธุ์เมธา, สุธรรม คงเพชร

หลุมศพของฟาโรห์เต็มไปด้วยทองคำจำนวนมาก

ทองคํา…ล้ําเลอค่า

มนุษย์รู้จักใช้ ทองคํา นํามาทําเป็นเครื่องประดับมาแต่โบราณ ทองคําที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ขุดค้นเจอในรูปของเครื่องประดับ และเครื่องใช้ในบริเวณที่เรียกว่า สุสานวาร์นา (Varna Necropolis) ปัจจุบันเป็นประเทศบัลแกเรีย บริเวณที่ขุดค้น นั้นเป็นสุสานที่ฝังศพคนโบราณ คํานวณยุคสมัยแล้ว สันนิษฐานว่า เป็นหลุมศพของชาวเมืองแห่งวาร์นา ใกล้ทะเลดําา ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมวาร์นา มีอายุราว ๔,๖๐๐ – ๔,๒๐๐ ปี ก่อนคริสตกาล

การขุดค้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. ๑๙๗๒ ขุดพบ ๒๙๔ หลุม ภายในพบเครื่องประดับทองคํา แหวน สร้อยคอ กําไล เครื่องใช้ต่างๆ รวม ๓,๐๐๐ ชิ้น บ่งบอกว่าคนโบราณ ที่อยู่ก่อนเรามาเกือบหมื่นปี มีความสามารถในการผลิตทองคําและใช้ประดับสิ่งของเครื่องใช้ เป็นทองคํายุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าชีวิตก่อนความตายและความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย เช่น หลุมศพหมายเลข ที่ ๔๓ พบทองคําจํานวนมากประดับ ตามร่างของผู้ตาย นักโบราณคดีบอกว่า ร่างอันไร้วิญญาณเหลือแต่โครงกระดูกแต่เต็มไปด้วยทองคํานั้นคงเป็นบุคคล สําคัญ อาจเป็นพระราชาหรือเป็น นักบวช ร่างนั้นสูงประมาณ ๑๗๒ เซนติเมตร เป็นชายที่มีทองคําประดับ อยู่ ๙๙๐ ชิ้น นับได้ ๑.๕ กิโลกรัม มีเครื่องประดับทองคําที่ดูเหมือนคฑา ในมือขวา สร้อยคอทองคํา ๓ เส้น อยู่รอบคอ ลูกปัดทรงกลมแบนจาก ทองคํา เสื้อผ้าตกแต่งด้วยแผ่นทอง นอกจากนี้ยังพบเครื่องปั้นเซรามิกเพนท์ลายด้วยทองคํา และสีอันเหลืองอร่ามของทองคํายังคงส่องประกายอยู่ ในกองหินทรายแม้เวลาจะผ่านมานานหลายพันปี

ทองคํา ไม่เคยเสื่อมค่า ไม่เปลี่ยนสี ไม่ผุกร่อน เป็นวัตถุแวววาวที่ทรงพลัง ที่สุดที่มนุษย์รู้จัก และเป็นโลหะชนิด เดียวที่ได้รับการยอมรับทุกหนแห่ง สังคมมนุษย์เรียนรู้การใช้ทองคําในหลายโอกาส ชนชั้นสูงและนักบวชมักเป็นบุคคลกลุ่มแรกๆ ที่เข้าถึงทองคําเพื่อใช้แสดงฐานะ บอกตัวตน และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทุกศาสนากล่าวอ้างถึงทองคําในฐานะโลหะเลอค่าและชนทุกชาติล้วนครอบครองแผ่นดินที่มีทองคํา มากหรือน้อย พานพบหรือหลุดลอย เพราะทองคําคือแร่ธาตุที่ฝังตัวเองอยู่ในชั้นหิน บ้างลอยอยู่บนผิวน้ําเช่นในแถบเอเชียไมเนอร์ แต่ทองคําเป็นแร่ธาตุหายาก มีคุณค่าในเนื้อโลหะที่ไม่แปรเปลี่ยน ทองคําจึงเป็นอมตะและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ยุคสมัยของทองคําเกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดของมนุษย์โลก อารยธรรม โบราณใช้ทองคําประกาศความรุ่งเรือง เช่น ยุคอียิปต์เกรียงไกร ในหลุมศพ ฟาโรห์ก็เต็มไปด้วยทองคําและเพชร นิลจินดา อาณาจักรโรมันแสวงหาอํานาจและความร่ํารวยด้วยทองคําจากสเปน โปรตุเกส และแอฟริกา พอถึงยุคตื่นทองก็ทําให้โลกใหม่อเมริกาเกิดขึ้นมาพร้อมกับความหวัง อาณาจักรเก่าแก่อย่างจีนและอินเดีย การใช้ทองคําแพร่หลายในราชสํานัก เป็นเครื่องบรรณาการและเป็นข้อเรียกร้อง ในพม่ารัฐบาลทหารพม่าบอกว่า ประเทศพม่าไม่จําเป็นต้องมีทองคําแท่งเป็นทุนสํารองเงินตราเพราะเจดีย์ของพม่านั้นห่อหุ้มด้วยทองคํามากมาย ล้ําค่า และไม่มีใครขโมยได้

ภาพโครงกระดูกทองคําที่พบกับโครงกระดูกโบราณบ่งบอกถึงความเชื่อของชีวิตหลังความตาย

แผ่นดินไทยก็มีประวัติการใช้ทองคํามาแต่โบราณ นักประวัติศาสตร์ระบุว่า คําว่า “สุวรรณภูมิ” ที่แปลว่า “แผ่นดินทอง” นั้นน่าจะสืบเนื่องมาจากอารยธรรมที่รุ่งเรืองมาเนิ่นนานดินแดนสุวรรณภูมิครอบคลุมหลายประเทศในเอเชียใต้ น่าจะนับตั้งแต่ประเทศพม่าจนถึงแหลมมลายู กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงอธิบายไว้ในหนังสือพระราชพงศาวดารว่า…สุวรรณภูมิ ตั้งแต่เมืองมอญตลอดลงมาจนถึงแหลมมลายู หรืออาจไปถึง เมืองญวน…หลักฐานของกรมทรัพยากรธรณี มีบันทึกการร่อนหาทองคํามาตั้งแต่ยุคโบราณ อาณาจักร เก่าแก่ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเมืองไทยนั้น ได้แก่อาณาจักรเชียงแสน มีพระพุทธรูปหล่อด้วยทองคํา หรือ ทองคําในรูปของเครื่องประดับของสตรี ชั้นสูง และใช้ทําเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และเครื่องราชูปโภค พระราชสาสน์จาร (เขียน) ลงบนแผ่นทองคํา เครื่องราช บรรณาการต่างๆ เช่น สมเด็จพระ นารายณ์มหาราช ส่งทองคําไป บรรณาการพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ จํานวน ๔๖ หีบ และได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจาก ฝรั่งเศสมาทําเหมืองแร่ทองคําในไทย ทองสุโขทัย ก็เป็นอีกตัวอย่างของเครื่อง ทองโบราณที่คนยุคใหม่ ผลิตเลียนแบบ ของเก่าดั้งเดิม โดยแกะลวดลายจาก เครื่องทองโบราณที่ขุดค้นพบ ลวดลายของทองคําเทคนิคการผลิต และสีสันของเนื้อทอง สามารถบอกคนรุ่นใหม่ ได้ว่า เครื่องประดับทองคํานั้นเกิดมา จากยุคไหน ย้อนอดีตไปได้กี่ร้อยปี และผลิตเพื่อใคร

ทองคํา ไม่เคยเสื่อมค่า ไม่เปลี่ยนสี ไม่ผุกร่อน เป็นวัตถุแวววาวที่ทรงพลังที่สุดที่มนุษย์รู้จัก และเป็นโลหะชนิดเดียวที่ได้รับการยอมรับทุกหนแห่ง สังคมมนุษย์เรียนรู้การใช้ทองคําใน หลายโอกาส ชนชั้นสูงและนักบวช มักเป็นบุคคล กลุ่มแรกๆ ที่เข้าถึงทองคํา เพื่อใช้แสดงฐานะ บอกตัวตน และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

ทองคําที่ขุดพบโดยบังเอิญในไร่สวนปาล์ม อําเภอเขาชัยสน จังหวัด พัทลุง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสมบัติ ล้ําค่าที่ฝังอยู่ใต้ดิน เป็นทองคําแผ่น และทองรูปพรรณ ที่ต้องรอพิสูจน์ร่องรอยความเป็นมา อาจารย์นิพนธ์ยอดคําปั้น ครูช่างทองหลวงที่กาญจนาภิเษก วิทยาลัยช่างทองหลวง บอกว่า แม้จะมีเรื่องเล่าหรือตํานานบอกว่า ชนชั้นสูงหรือผู้มีฐานะจากต่างเมือง ขนทองคําล่องเรือมาเพื่อนําแผ่นทองคําไปห่อที่ยอดพระธาตุเมืองนครแล้วเกิดอุบัติเหตุทําให้ทองสูญหายไป แต่เนื่องจากหลักฐานเอกสารยังไม่แน่ชัด คนสมัยก่อนไม่ค่อยจดบันทึกมีเพียงเล่าต่อกันมา

บ้างอ้างถึงแผ่นทองคําที่พบมี ขนาดเท่ากับคัมภีร์ใบลานซึ่งสอดคล้อง กับตํานานการสร้างพระบรมธาตุ เมื่อ ปี พ.ศ. ๑๖๓๖ ซึ่งระหว่างการเดินทาง นั้นได้เกิดอุบัติเหตุจนเจ้าของทองคําไม่สามารถนําทองไปต่อได้ หรืออาจจะ เป็นเจ้าของทองคํานํามาฝังเอาไว้เองโดยไม่บอกที่ซ่อนจนมีคนมาขุดเจอเรื่องเล่าที่ดูเหมือนเล่าต่อกันไปหลายแบบนั้นต้องรอการพิสูจน์ ที่ต้องกระทําร่วมกันระหว่างนักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดี เพราะลวดลายที่พบบน กําไลต้นแขนเหมือนลายพญานาคคาดว่าน่าจะเป็นศิลปะจากทางเขมรที่รับอิทธิพลมาจากศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูอีกต่อหนึ่ง ความเชื่อเรื่อง พญานาค และพระนารายณ์กวนเกษียรสมุทร มาจากแถบลุ่มแม่น้ําโขงลวดลายบอกเล่าถึงคนออกแบบ และ คนออกแบบรับเอาศิลปวัฒนธรรม จากสภาพแวดล้อมของตัวเองมาอีกต่อหนึ่ง

“โดยเฉพาะลวดลายหัวพญานาคที่เห็นนี้ ถ้าเป็นของโบราณจริงไม่ได้ทําขึ้นใหม่ บอกในเบื้องต้นได้ว่าเป็นศิลปะ ของไทยและเขมร ไม่ใช่พม่า และไม่ใช่ จากแถบมาเลย์หรือผู้คนทางใต้ และ น่าจะเป็นของชนชั้นสูง ไม่ใช่ของคน ทั่วไป แต่การสืบค้นต้องดูเส้นทางขนส่งว่ามาจากทางไหน มีหลักฐาน ทางเอกสารหรือไม่”

ศิลปะบนเครื่องประดับทองคํา บอกยุคสมัยได้ แต่ก็มีเหตุปัจจัยอีก หลายอย่างที่ต้องผ่านการพิสูจน์เนื้อทองจากกาลเวลา เช่น มีผิวกร่อนลงไปหรือมีเฉดสีที่บอกแหล่งที่มา อาจารย์ นิพนธ์ตั้งข้อสังเกตไว้หลายอย่างเพราะทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ เช่น อาจ เป็นทองคําที่ถูกลักขโมยมา อาจเป็น ทองคําที่คนยุคไม่กี่ปีมานี้ผลิตเลียน แบบของเก่า หรืออาจเป็นทองคําที่โจร ปล้นมาแล้วแอบเอามาฝัง ฯลฯ

บรรยากาศการขุดทองของชาวบ้าน ณ ไร่สวนปาล์ม อ. เขาชัยสน จ. พัทลุง เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

เป็นสิ่งซึ่งต้องพิสูจน์ตามหลักคณิตศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี จนถึงนักธรณีวิทยา จะช่วย บอกเราได้ว่า โดยเนื้อแท้ทองคําที่พบนั้น บรรจุเรื่องราวอันใดไว้ และเรื่อง ราวเหล่านั้นจะไม่สูญหายไปอีก

เช่นเดียวกับทองคําที่เป็นอมตะ โลหะแวววาวที่มั่นคง…. เสมอมา


ภาพ: wikipedia.org, omda.bg, varna
ข้อมูล: wikipedia.com, goldtraders.co.th, ancient-treasure.info

About the Author

Share:
Tags: ทองคํา / ฟาโรห์ / Egypt / gold / อียิปต์ / ฉบับที่ 5 /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ