“…ที่เป็นห่วงนั้น เพราะแม้ในเวลา 2 ปี ที่เป็นปีกาญจนาภิเษกก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่า ประชาชนยังมีความเดือดร้อนมาก และมีสิ่งที่ควรจะแก้ไขและดำเนินการต่อไปทุกด้าน มีภัยจากธรรมชาติกระหน่ำ ภัยธรรมชาตินี้เราคงสามารถที่จะบรรเทาได้หรือแก้ไขได้ เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาพอใช้ มีภัยที่มาจากจิตใจของคน ซึ่งก็แก้ไขได้เหมือนกัน แต่ว่ายากกว่าภัยธรรมชาติธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งนอกกายเรา แต่นิสัยใจคอของคนเป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน”
พระราชดรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ 4 ธันวาคม 2539
ในการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น จึงเห็นประจักษ์ได้ว่าทรงเห็นความสำคัญอย่างยิ่งยวดของความสอดคล้องทางวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตของคน ในการนำความเจริญมาสู่สังคมและประเทศชาติ
จากการสืบสานกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค สู่การสร้างสรรค์การแสดงโนราห์และพระราโชบายด้านการบูรณาการวิถีชีวิตชาวชนบท ที่ทรงแสดงเป็นตัวอย่างอันชัดเจนกระทรวงวัฒนธรรมขอน้อมนำมาเป็นแนวทางหลักในการบริหารราชการ