งานแก้วเป่าของอิตาลี โด่งดังในชื่อแก้วมูราโน่ (Murano Glass) แต่ความจริงแล้วแก้วมูราโน่ หรือบางคนเรียกว่าแก้วเป่าเวเนเชียน (Venetian Glass) นั้นเริ่มต้นในช่วงยุคต้นศตวรรษที่ ๘ ที่เมืองเวนิส พอถึงปลายศตวรรษที่ ๑๓ ความเฟื่องฟูของงานแก้วเป่า ทำให้เกิดมีโรงงานเป่าแก้วขึ้นมามาก ชาวเมืองเกรงกันว่าเตาหลอมที่ใช้เป่าแก้วนั้นอาจจะเกิดการระเบิดขึ้นและไปทำลายบ้านเมืองซึ่งส่วนใหญ่มีสถาปัตยกรรมที่ทำมาจากไม้ ช่างเป่าแก้วและโรงงานแก้วเป่าจึงถูกขอให้ย้ายออกจากเมืองไป ช่างเป่าแก้วเลือกทำเลใหม่ในการสร้างโรงงานซึ่งก็คือเกาะมูราโน่ที่อยู่ไม่ไกลจากเวนิส และนั่นคือจุดเริ่มต้นของแก้วมูราโน่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จนบางคนเรียกเกาะมูราโน่ว่าเป็นเกาะแก้ว (Glass Island)
ในช่วงเริ่มต้นของการย้ายฐานไปยังเกาะมูราโน่ ช่างเป่าแก้วชาวเวนิสก็ได้สร้างผลงานเป่าแก้วกระจกเงาและแก้วคริสตัลที่สวยงามออกมามากมายจนได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก ในช่วงเวลานั้นนักเป่าแก้วถึงขั้นถูกห้ามไม่ให้ออกจากบริเวณเกาะมูราโน่กันเลยทีเดียว
จนถึงวันนี้ งานศิลปะแก้วเป่ามือจากมูราโน่ยังคงได้รับความชื่นชอบจากคนทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่นักสะสมงานศิลปะและกลุ่มนักออกแบบ ที่มองว่าแก้วมูราโน่คือการแต่งงานกันระหว่างหัตถศาสตร์กับศิลปะ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของแก้วมูราโน่นอกจากที่ว่าแต่ละชิ้นงาน แม้จะมีดีไซน์ที่เหมือนกัน แต่ก็จะไม่มีชิ้นไหนที่เหมือนกันเป๊ะๆ แล้ว ยังเด่นด้วยรูปทรงที่ผนวกเอาดีไซน์และศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้วัสดุที่มีราคาสูงอย่าง ทอง ๒๔ กะรัต แผ่นเงิน แพลทตินัม โมรา อเล็กซานไดรท์ เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วงานศิลปะแก้วเป่ามูราโน่ที่ซื้อขายกันจะมาพร้อมใบรับรองที่ระบุทั้งชื่อผลงาน ชื่อช่างฝีมือ และปีที่ผลิต