นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 8
เรื่อง: จิระนันท์ พิตรปรีชา
ภาพ: นาวิน เนาวพงศ์
www.krungshing.com

เมื่อสิ้นสุดระยะเข้าพรรษาของภิกษุสงข์ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ แต่ละภูมิภาคของประเทศไทยจะครึกครื้นด้วยเทศกาลงานบุญ อันได้แก่ การตักษาตรเทโว เทศน์มหาชาติ ทอดกฐิน และทำบุญสารท อุทิศส่วนกุศลให้บรรพชนผู้ล่วงลับ ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะมีประเพณีสีสันแตกต่างกันไป แต่ในระยะหลังยิ่งมีการเสริมสร้าง “จุดขาย” การท่องเที่ยวเข้าไป จนบางครั้งทำให้หลงลืมไปว่า แท้จริงแล้ว เทศกาลโยนบัว (สมุทรปราการ), บั้งไฟพญานาค (หนองคาย), ไหลเรือไฟ (นครพนม), แห่ปราสาทผึ้ง (สกลนคร), ตานก๋วยสลาก (ภาคเหนือ),ชักพระ (ทั่วภาคใต้), แข่งเรือยาว (ทั่วประเทศ) ล้วนมีที่มาจากประเพณีความเชื่อเดียวกันนั่นเอง
ทักษิณคดีประเพณีออกพรรษา

สำหรับภาคใต้ ช่วงเทศกาลออกพรรษา จะมีงานบุญเป็นลำดับต่อเนื่องกัน ตลอดทั้งเดือน ดังนี้
ประเพณีลากพระ หรือชักพระวันออกพรรษา โดยแต่ละชุมชนตกลงนัดหมายกันลากพระไปยังจุดศูนย์รวมเพื่อทำพิธีสักการะ ขอพร ประกวดเรือพระแล้ว ในวันรุ่งขึ้นคือ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ จึงลากพระกลับวัด ตามความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวตึงส์ เพื่อโปรดพระมารดาจนครบพรรษาแล้วจึงเสด็จกลับมายังโลกมนุษย์ พุทธศาสนิกชนไปรับเสด็จ อัญเชิญพระพุทธเจ้าประทับบนบุษบก แห่แหนแสดงความเคารพบูชา ชาวบ้นเชื่อว่า อานิสงส์จากการลากพระจะทำให้ฝนตกตามฤดูกาลจึงนิยมสร้างสัญลักษณ์พญานาคให้น้ำประดับเรือพระ และถ้าใครได้ลากทุกปีก็จะได้บุญมาก ดังนั้นเมื่อขบวนลากพระผ่านบ้านใคร คนในบ้านจะออกมาช่วยรับทอดลากพระต่อๆ ไปไม่ขาดสาย
การ “ลากพระบก” ใช้เชือกแบ่งผูกเป็น ๒ สาย เป็นสายผู้หญิงและสายผู้ชาย ใช้โพนฆ้อง ระฆัง ตีให้จังหวะ คนลากจะเบียดเสียดสนุกสนานและประสานเสียงร้องบทลากพระเพื่อผ่อนแรง ตัวอย่างบทร้องที่ใช้ลากพระ “สาระพา เฮโล เฮโล ไอ้ไหรกลมกลม หัวนมสาวสาว ไอ้ไหรยาวยาว สาวสาวชอบใจ” ส่วนการ “ลากพระน้ำ” ออกจะสนุกและสะดวกกว่า เพราะสภาพเอื้ออำนวยต่อชักลากง่ายแก่การรวมกลุ่มจัดเรือพาย และท้าทายต่อการแข่งขันประกวดประชันกัน ที่จังหวัดพัทลุง มีการจัดแข่งขันตีโพนประชันเสียงกลองทัดอย่างจริงจังในโอกาสนี้ด้วยประเพณีทำบุญ “สารทเดือนสิบ” เชื่อกันว่า ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ พญายมราชจะปล่อยพวกเปรตทั้งหลายให้ขึ้นมาเยี่ยมลูกหลาน และขอรับส่วนกุศลที่ลูกหลานทำบุญอุทิศให้ โดยเมื่ออยู่ในโลกมนุษย์ครบ ๑๕ ราตรี จนถึงแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ เปรตทั้งหลายจะถูกเรียกตัวกลับนรกภูมิ ไปชดใช้กรรมตามเดิม แต่จะสามารำนำบุญกุศลดังกล่าวไปใช้ลดหย่อนโทษได้