
นอกจากนี้หลวงพ่อเงินยังไปศึกษากับ สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) วัดโสมนัสวิหาร พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา ต้นวงศ์พระสายอรัญวาสีแห่งรัตนโกสินทร์ ภาพของสมเด็จพระวันรัต (ทับ ) พุทธสิริ ที่เราคุ้นตาเป็นอย่างดีคือภาพที่ ท่านกำลังพิจารณา อสุภกัมมัฏฐานอยู่ ซึ่งท่านชำนาญกัมมัฏฐานกองนี้มาก ท่านเป็นภิกษุที่เคร่งครัด ในพระธรรมวินัยยิ่งนักอีกทั้งยังเป็นอาจารย์ของผู้พระสงฆ์ผู้ทรงฤทธิ์อีกหลายองค์ด้วยกัน หรือแม้แต่ “ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโร วัดเลียบ (พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ) ” ยังให้ความนับถือท่านมากและสรรเสริญการปฏิบัติธรรมของท่านอย่างยิ่ง หลวงพ่อเงิน ในขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามท่านได้เล่าเรียนกับพระเถราจารย์ผู้เชี่ยวชาญพระกัมมัฏฐานถึง ๓ องค์ด้วยกัน ระหว่างที่ท่านบรรพชาเป็นสามเณรนั้น ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาบาลีจนแตกฉานพอสมควร และเมื่ออายุครบบวช ๒๐ ปี ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นพระ ณ วัดตองปุ มีฉายาว่า “พุทธโชติ” อยู่ศึกษาด้านวิปัสสนาธุระเป็นเวลา ถึง ๓ พรรษา ด้วยว่าในขณะนั้นทางบ้านโยมปู่ได้ล้มเจ็บหนัก โยมลุงของหลวงพ่อเงิน ได้เดินทางลงมาแจ้งข่าว หลวงพ่อเงินได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดตองปุกลับไปดูอาการของโยมปู่ ที่จังหวัดพิจิตรบ้านเกิด โดยได้มาจำพรรษา ณ วัดบางคลานใต้ ซึ่งปัจจุบันก็คือวัดคงคารามนั่นเอง หลวงพ่อเงินได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้เป็นเวลา ๑ พรรษา โยมปู่ของท่านก็ได้เสียชีวิตลงบรรดาญาติพี่น้องของหลวงพ่อ ได้นิมนต์ให้หลวงพ่ออยู่จำพรรษาเสียที่วัดแห่งนี้ หลวงพ่อเงินได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางคลานใต้ “หลวงพ่อโห้” หรือ “พระอาจารย์โห้” เจ้าอาวาสวัดใน ขณะนั้นท่านเป็นพระนักเทศน์ ท่านมักซ้อมเทศน์ชาดกเสียงดัง ส่งเสียงรบกวนสมาธิ หลวงพ่อเงินท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน
ท่านต้องการความเงียบสงบในการนั่งวิปัสสนากรรมฐานมาก อาจเป็นไปได้ว่าหลวงพ่อเงินท่านคงอึดอัดใจมาก เล่าว่าท่านบ่นให้คนใกล้ชิดฟังว่า “ชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน” จึงตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น จากนั้นท่านจึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดท้ายน้ำราว พ.ศ.๒๓๗๘ ได้อยู่ร่วมกับหลวงพ่อเขียว ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท้ายน้ำในขณะนั้น หลวงพ่อเขียวเป็นคนแถบอยุธยา ถือได้ว่าเป็นผู้ที่เรืองวิชาอาคมเช่นเดียวกับหลวงพ่อเงินเดิมท่านอาศัยอยู่ที่แพริมน้ำใต้ต้นโพธิ์หน้าวัด เมื่อหลวงพ่อเงินมาอยู่ด้วยใหม่ ๆ ก็ลงไปอยู่ที่แพแต่อยู่กันคนละห้อง ต่อมาเมื่ออาคารถาวรของวัดท้ายน้ำเสร็จ ท่านจึงได้ขึ้นมาอยู่ในบริเวณวัด หลวงพ่อเงินได้สร้างถาวรวัตถุไว้ในบริเวณวัดท้ายน้ำมากมาย เช่น ศาลา โบสถ์ หอระฆัง สิ่งก่อสร้างของท่านทำด้วยไม้ แต่กาลเวลาทำให้ชำรุดทรุดโทรมลงไป ตอนสร้างโบสถ์จะเป็นไม้ทั้งหมดหลังคากระเบื้องดินเผา มีหลวงพ่อองค์อื่นที่มีชื่อเสียงมาร่วมช่วยสร้างมากมาย เช่น หลวงพ่ออินทร์ วัดพังน้อย, หลวงพ่อเทียน วัดหนองดง, หลวงพ่อเทียนท่านนี้เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับหลวงพ่อเงิน คือไปเรียนวิชามาจาก หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า ด้วยกัน และที่หน้าบรรณโบสถ์วัดท้ายน้ำนี้หลวงพ่อเงินท่านก็แกะสลักด้วยตัวท่านเองทั้งหมด หลวงพ่อเงินขณะอยู่ที่วัดท้ายน้ำ ท่านไม่ต้องการตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น คือ เพียงมาอาศัยอยู่ในฐานะลูกวัด แต่ก็มีผู้เลื่อมใสท่านมากกว่าพระองค์อื่น ๆ ในวัด ท่านสนิทสนมกับกลวงพ่อเขียวมาก