Tuesday, February 18, 2025
พระเครื่อง ชื่นชมอดีต

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน (หิรัญญาราม) ตอนที่ ๑

พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเงิน-วัดบางคลาน

          อยู่มาวันหนึ่งหลวงพ่อเงินเห็นว่าตรง หมู่บ้านวังตะโก ซึ่งอยู่ห่างจากวัดคงคาราม คนละฝั่งไปทางเหนือประมาณ  ๕๐๐ เมตร  บริเวณนั้นมีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน   มีต้นไม้ใหญ่  เช่น  ต้นตะเคียน  ต้นตะโก  เหมาะที่จะสร้างวัดใหม่  เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้ว หลวงพ่อเงินจึงขอเสี่ยงทายบารมีโดยหักกิ่งโพธิ์กิ่งหนึ่งติดตัวไปด้วย  เมื่อไปถึงบริเวณป่าตะโก ที่คิดจะก่อตั้งสถานที่ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า  “ หากตัวเราจะเจริญในพุทธศาสนาแล้วไซร้  ขอให้กิ่งโพธิ์ที่ปักนี้เจริญงอกงาม “  เมื่อคำอธิฐานเสร็จสิ้นท่านก็ได้ปักกิ่งโพธิ์นั้นลงกับพื้นดิน ที่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญหลังเก่า ณ วัดวังตะโก หรือวัดบางคลาน ในปัจจุบัน  ปกติต้นโพธิ์จะไม่ขึ้นจากกิ่ง   วันเวลาผ่านไปกิ่งโพธิ์ที่ปักนั้น ก็เจริญงอกงาม ตั้งลำต้นขึ้นอย่างสง่างาม  สร้างความอัศจรรย์แก่หลวงพ่อเงินอย่างยิ่ง  ทำให้หลวงพ่อเงินคิดถึงคำที่ท่านอธิฐานเอาไว้ ได้เป็นจริง ท่านจึงคิดว่าจะบวชไปตลอดชีวิตเพื่อศึกษาพระธรรมคำสอน เดินตามรอยพระศาสดา

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน-วัดบางคลาน-พิมพ์ขี้ตา

เมตตาธรรมของหลวงพ่อเงิน

            เมื่อหลวงพ่อท่านย้ายไปสร้างวัดใหม่ ที่บ้านวังตะโก นั้นก็สร้างในลักษณะสำนักสงฆ์เล็ก ๆ  ไม่มีเสนาสนะที่ถาวรใด ๆ เป็นเพียงกุฏิ ไม้ไผ่หลังคามุงแฝกเพียงหลังเดียวเท่านั้น  เนื่องจากท่านเป็นพระที่เคร่งทางวิปัสสนา จึงมีคนเคารพนับถือมากกิตติศัพท์ในการรักษาผู้ป่วย โดยท่านใช้ตำรับยาแผนโบราณ ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อเงินขจรกระจายไปทั่วทั้งคุ้งแม่น้ำน่านผู้คนหลั่งไหลมาให้รักษา  มาขออาบน้ำมนต์ของหลวงพ่อเพื่อขจัดสิ่งโชคร้าย เป็นที่โจทย์ขานกันว่าน้ำพระพุทธมนต์หลวงพ่อเงินศักดิ์สิทธิ์นัก ทำให้มีผู้กล่าวว่า  น้ำมนต์ของหลวงพ่อเงินนั้นไหลลงสู่แม่น้ำน่านตลอดเวลา สายน้ำที่หน้าวัดเวลานั้นกลับมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเรียกได้ว่าหากหลวงพ่อเงินท่านไม่อยู่ วักน้ำจากที่หน้าวัดอธิษฐานเอาก็ใช้ได้เหมือนกัน  บ้างก็มาขอเครื่องรางของขลังจากท่านมิได้ขาด ท่านมีความเมตตาอารีต่อคนทั่วไป ใครมาหาก็ต้อนรับเสมอ โดยมิได้แสดงความเบื่อหน่ายแต่อย่างไร ชาวบ้านเอาสัตว์มาถวายไม่ว่าจะเป็นกระทิง ช้าง หมูป่า เก้ง กวาง ชะนี และจระเข้  ท่านก็รับไว้จนบริเวณวัดกลายเป็นสวนสัตว์ย่อม ๆ เท่าที่สืบทราบมา ท่านจะรักช้างของท่านมาก  ท่านมีช้างไว้เพื่อเป็นพาหนะเดินทางไปรักษาญาติโยมที่เจ็บป่วยไม่ต้องเดินทางมารักษาที่วัด  ซึ่งไกลและลำบาก  โดยเฉพาะญาติโยมที่อยู่บ้านท้ายน้ำ บ้านบางลายในปัจจุบัน  ท่านจะนั่งช้างออกมาหลังวัด

  ผ่านบ้านปากลัดไปถึงบ้านท้ายน้ำ  และบ้านบางลาย  ใช้เวลาประมาณ ๑  ชั่วโมงก็ถึง  รักษาผู้ป่วยเจ็บและเดินทางกลับวัด  ส่วนทางบ้านท่านั่ง  บ้านดงกะพี้  บ้านท่าไม้  มีหมอแผนโบราณชื่อ  ผู้ใหญ่ลา  เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับหลวงพ่อเงิน  หลวงพ่อเงินท่านจะไปมาหาสู่กันโดยทางเรือเสมอ  ญาติโยมไม่ต้องเดินทางมารักษา  เรือของหลวงพ่อเงินลำใหญ่ใช้คนแจวหลายคน   สำหรับวิธีโรครักษาของหลวงพ่อเงินนั้นค่อนข้างแปลกกล่าวคือท่านจะใช้ น้ำหมากป้ายศีรษะ ท่านสงเคราะห์ญาติโยมอย่างนี้มิได้ขาดและไม่คิดค่าตอบแทนใดทั้งสิ้น  หลวงพ่อเงินเป็นพระนักก่อสร้าง จากการที่ผู้คนต่างเดินทางหลั่งไหลไปหาหลวงพ่อเงินมากมาย จากสำนักสงฆ์เล็ก ๆ  ก็ได้รับการพัฒนาเป็นเรือนไม้สัก มีศาลา มีวิหารและพระอุโบสถ เสนาสนะต่าง ๆ เกิดขึ้นตามลำดับ จนเป็นวัดใหญ่โตในปัจจุบันและ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ วัดบางคลาน ”  ท้ายที่สุดหลวงพ่อเงินท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ฝ่ายวิปัสสนา (โปรดติดตามต่อในฉบับที่หน้า)

About the Author

Share:
Tags: พระสวย / พระ / หลวงพ่อเงิน / วัดบางคลาน / จังหวัดพิจิตร /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ