นิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 4 ถอดรหัส ศิลปะไทยครั้งที่ 2 จากผลงานชุด The Goodness ที่นำไปแสดง ณ Palazzo Durini เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ได้นำกลับมาผสานเข้ากับผลงานที่รวมกันเป็นเรื่องราวของป่าหิมพานต์ในพื้นที่อันงดงามของบ้านปาร์คนายเลิศ มุมมองของศิลปินและผลงานที่ประกอบกัน ระหว่างพื้นที่กับแนวคิดผลงานที่เล่าเรื่องอุดมคติของหิมพานต์ เรื่องราวที่ว่าด้วยเรื่องของสวรรค์ ดินแดนอันเป็นทิพย์วิมาน สงบร่มเย็น เปรียบได้กับพื้นที่ของบ้านปาร์คนายเลิศที่อยู่ใจกลางเมือง เป็นแหล่งโอโซนธรรมชาติต้นไม้ ใหญ่น้อยนานาพันธุ์ที่ยังคงหยัดยืนด้วยความสง่างามประกอบกับบ้านเรือนไทยที่มีอายุกว่า 108 ปี ที่งดงามและยังคงคุณค่าของความเป็นเอกลักษณ์ของไทยร่วมสมัย และดำรงเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสเหมือนพื้นที่ของศิลปะที่ปะทะเข้าสู่จิตใจของผู้คน ผ่านยุคสมัยมาอย่างยาวนาน
เมื่อหวนย้อนอดีตเดินเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้แล้ว ก็ต้องนึกถึงความรู้สึกภายในที่สะท้อนและสะเทือนอารมณ์ในเรื่องราวเก่าๆ ที่เคยผ่านมา เช่นเดียวกันกับงานชุดถอดรหัส ศิลปะไทย ครั้งที่ 2 นี้ ได้นำภาพผลงานจากนิทรรศการความดีที่กลับมาจากอิตาลี และผนวกกับผลงานอีก 3 ชิ้นที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ พูดถึงไตรภูมิเป็นงานชุดหลัก ซึ่งเขียนบนตู้ไม้หลังใหญ่ที่ออกแบบสร้างคัดเลือกไม้ เขียนงานจิตรกรรม และประติมากรรมลงบน งานชิ้นเดียวกันของศิลปินที่ออกแบบเองทั้งหมด และงานอีก 1 ชิ้นที่ซ่อนเร้นอดีตสู่ปัจจุบันคือสระบัวนายเลิศ ซึ่งเป็นหลุมที่เกิดจากการสู้รบการระเบิดในสมัยสงครามโลก ณ ปัจจุบันพื้นที่ของความเจ็บปวดนั้นถูกทำลายความรู้สึกที่เจ็บปวด กลับมาสู่ความเป็นความชุ่มฉ่ำ ชูช่อ ด้วยปัญญาของดอกบัว แทนค่าของปัญญาแห่งการตื่นรู้ประกอบกับสร้างชีวิตใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อันเดียวกันที่เปลี่ยนแปลงสภาพไป มีสัตว์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนั้น เช่น กบ แมลงปอ ผีเสื้อ เป็นต้น
นิทรรศการในครั้งนี้ ศิลปินตั้งใจประสานผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมของบ้านปาร์คนายเลิศที่เป็นเรือนไทยเดิม พื้นที่ของป่า สวนนายเลิศทั้งหมด ให้เหมือนผู้เข้าชมได้เดินเข้ามาในป่าหิมพานต์และมาดูงานที่เป็นแกนหลักในส่วนกลาง เพื่อจินตนาการถึงความสงบร่มเย็นและทิพย์วิมาน เหมือนเดินเข้าไปสู่ป่าหิมพานต์ในจินตนาการของตนเอง และได้ย้อนอดีตในสมัยก่อนของรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร ภายในใจตนเองด้วยเช่นเดียวกัน