สำหรับประสบการณ์ขึ้นรถไฟครั้งแรกนั้น วันวิสข์บอกว่า “จำไม่ได้ เพราะแม่บอกว่าตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบ ตอนนั้นคุณพ่อพาขึ้นรถไฟไปบ้านคุณยายที่พิจิตร น่าจะยังเด็กมาก” แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์ที่เขาเริ่มจำได้ก็คือ “ทุกครั้งที่พ่อจะพาไปบ้านยาย ต้องนั่งรถไฟเที่ยวเช้าคือ ออกจากกรุงเทพ ๖ โมง ๔๐ นาที ซึ่งเราต้องต้องตื่นกันตั้งแต่ตีสี่ ซึ่งพ่อจะรู้แกวว่าวันไหนจะไปขึ้นรถไฟ คืนนั้นต้องไม่บอกลูก เพราะถ้าบอกลูกจะไม่หลับ ตื่นเต้น นอนพลิกไปพลิกมา จนพ่อไม่หลับไปด้วย (ฮา) จำได้ว่าทุกครั้งที่จะได้นั่งรถไฟไปบ้านคุณยาย เป็นเรื่องสนุกมาก จากกรุงเทพไปตะพานหิน ๖ ชั่วโมง แล้วนั่งสามล้อต่อไปอีก พอมาคิดตอนนี้คือ ถ้าบ้านคุณยายไม่มีทางรถไฟ วัยเด็กเราคงไม่มีเรื่องอะไรให้สนุกได้เท่านี้”
บ้านคุณยายของเด็กชายแฮมคือแหล่งเรียนรู้เรื่องรถไฟในวัยเด็กของเขาได้เป็นอย่างดี “เราจะมีความสุขกับการได้นั่งรอดูว่ารถไฟจะมากี่โมง เป็นรถไฟอะไร เดินทางไปไหน รถไฟหัวรถจักร หรือไอน้ำ และมีกี่ตู้ เป็นความสนุกในแบบของเรา” และข้อดีของการสนใจเรื่องรถไฟยังทำให้ “ผมเป็นเด็กประถมที่อ่านนาฬิกาออกก่อนคนอื่น คือดูเวลาเป็นตั้งแต่เด็ก ประมาณป.หนึ่งมั้ง เราจะจำเวลาได้ เพราะพอรถไฟมาเราจะดูนาฬิกาว่าเข็มสั้นชี้เลขไหนเข็มยาวชี้เลขไหน แล้วก็จำไว้ว่าเวลาเท่าไหร่ที่รถไฟจะมา” อีกอย่างคือ “เราจะจำเสียงรถไฟแต่ละประเภทได้ คือตอนแรกก็แยกไม่ออก แต่พอเริ่มอยู่เป็นอาทิตย์ก็เริ่มจำได้ว่าเสียงหัวรถจักรนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักยี่ห้อ เราก็จะเรียกตามรูปพรรณสัณฐาน เช่น ถ้าเป็นหัวอ้วน หัวผอม และมีขบวนหนึงที่วิ่งมาตอนกลางคืน เป็นรถไฟที่เสียงแผ่วๆ หน้าเหมือนผี เราเรียกรถไฟหัวกะโหลก พอโตมาเราค่อยรู้ว่าแต่ละอย่างมีชื่อเรียก”
มีรถไฟเป็นห้องเรียน
ห้องเรียนเรื่องรถไฟของแฮมมีคุณตาคอยตอบคำถามที่เขายังหาคำตอบเองไม่ได้ในวัยเด็ก เช่นขบวนนี้กำลังวิ่งไปที่ไหน สายเหนือสายใต้ต่างกันอย่างไร ทำไมรถไฟมีหลายขบวน เรียกว่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถไฟล้วนสร้างความตื่นเต้นให้อยากรู้อยากเห็น อยากทำความรู้จักได้อย่างไม่สิ้นสุด
“ตอนเด็กๆ ผมจะมีพฤติกรรมอย่างหนึ่ง เพื่อจะดูรถไฟที่วิ่งผ่านให้ได้ คือบ้านคุณยายกับถนนจะอยู่ห่างกันประมาณหนึ่ง ถ้าจะดูรถไฟให้ชัด ผมต้องวิ่งจากบ้านขึ้นไปบนถนน ดังนั้นพอได้ยินเสียงหวูดรถไฟปุ๊บ ผมจะวิ่งจากบ้านขึ้นไปบนถนน จนคนแถวบ้านพูดประมาณว่า เราเป็นเด็กไม่เหมือนคนอื่น เด็กผู้ชายคนอื่นเขาเตะบอล ว่ายน้ำ แต่เราคงเป็นเด็กอินโทรเวิท เล่นคนเดียว ไม่เล่นกับใคร มีของเล่นรถไฟปั๊บ ก็จะนั่งเข็นเล่นเปิดให้มันวิ่งวนไป ความสุขของเรามีแค่ตรงนั้น”