มีรถไฟเป็นแรงบันดาลใจ
ต่างจากยานพาหนะประเภทอื่น การเดินทางโดยรถไฟ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเฉกเช่นยานพาหนะประเภทอื่น เมื่อเราถามถึงหัวข้อนี้ขึ้นมา แฮมก็อธิบายว่า “รถไฟช่วยในเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะรถไฟสามารถขนคนไปในคราวเดียวได้เยอะมาก และการใช้พลังงานจากน้ำมันดีเซลเฉพาะตรงหัวรถจักร กับเครื่องปั่นไฟแค่สองตู้ แค่นี้รถก็วิ่งได้ทั้งขบวนที่สามารถจุดได้ตั้งแต่ ๔๐๐-๗๐๐ คน แต่ถ้าให้คนสี่ร้อยคนไปอยู่บนรถบัส ต้องใช้รถประมาณ ๑๐ คัน ใช้พลังงานน้ำมันมากกว่า ๑๐ เท่า พลังงานยิ่งเพิ่มขึ้น และรถทุกคันก็ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และต้นไม้เราก็ถูกทำลายเยอะมากอีก แล้วจะมีอะไรมาดูดซับคาร์บอนเหล่านั้น
“นี่คือสิ่งที่สำคัญมากที่เราต้องสนับสนุนการเดินทางด้วยรถไฟ และอีกอย่างในเรื่องอนุรักษ์ ผมมองว่ารถไฟเป็นยานพาหนะที่ไม่ได้วิ่งตลอดเวลา ทำให้อัตราการปล่อยคาร์บอนน้อย และบางโซนที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ก็จะเป็นพลังงานสะอาดเข้าไปอีก และถ้าเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ผมว่ามันดีกับเมืองขนาดเล็ก ชุมชนขนาดเล็กที่ยังมีถนนเส้นย่อยๆ รถไฟก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า
“รถไฟเป็นยานพาหนะที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ด้วยการเดินทางที่สามารถแวะได้หลายจังหวัดในคราวเดียวกัน เส้นทางต่อไปเรื่อยๆ ทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ ได้เห็นอะไรหลายอย่าง รถไฟยังสร้างอาชีพด้วย มีอาชีพที่ชาวบ้านมาขายของทั้งในสถานีรถไฟ นอกสถานีรถไฟ และคนที่ประกอบอาชีพที่มีรถไฟมีความเกี่ยวข้องด้วยอีกมากมาย
“สำหรับอาชีพผม…ผมว่าผมกำลังร่ายชีวิตของเพื่อนผมคนหนึ่งให้คนฟัง เพราะคนรู้จักเพื่อนผมคนนี้น้อยมาก อาจจะเพราะเฟิร์สอิมเพรสชั่นไม่ดี ก็คงเหมือนคนคนหนึ่งที่เห็นหน้าครั้งแรกอาจไม่ถูกใจ ต่ำอวันหนึ่งที่เราอาจรู้จักเขาดีขึ้นก้คิดว่าอื้ม…จริงๆ คนนี้ก็น่าคบเหมือนกันนะ กับรถไฟก็คงอารมณ์เดียวกัน ดังนั้นเป้าหมายของผมก็คือ…ถึงวันนี้ดูเหมือนผมจะมีแนวทางที่ชัดเจน มีแพสชั่นเรื่องรถไฟมาตั้งแต่เด็ก แต่มาถึงจุดนี้ก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไร เพราะเรายังอยากมีเรื่องให้จดจำไว้ในฮอลออฟเฟรมของเราว่า อย่างน้อยพอเราอายุหกสิบ เราได้เปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไม่มากก็น้อย
“จุดประสงค์ของผมไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องรถไฟ การเดินทางด้วยรถไฟ การได้ทำงานเกี่ยวกับรถไฟ ทุกสิ่งทุกอย่างผมทำเพื่อรถไฟอย่างเดียว ผมทำเพื่อเพื่อนของผมคนนี้ เพื่อสักวันจะไม่มีคนพูดได้ว่า ชอบรถไฟไทยได้ยังไง ผมโดนคำถามนี้บ่อยมากว่าชอบรถไฟไทยได้ยังไง มีอะไรให้ชอบ ฉะนั้นถึงวันหนึ่ง ผมตั้งใจว่าจะไม่มีคนมาถามคำถามนี้กับผมแล้ว เป้าหมายหลักอีกอย่างหนึ่งคือผมอยากตั้งกองกำลังคนที่รู้เรื่องรถไฟ เพราะว่าการที่รถไฟในต่างประเทศเขาเจริญก้าวหน้าขึ้นมาเพราเขาสร้างคน อย่างรถไฟญี่ปุ่นเป็นสิ่งชัดเจนมาก เด็กญี่ปุ่นรักรถไฟเยอะมาก พวกเขาฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะเป็นคนขับรถไฟ ซึ่งความฝันแบบนี้ไม่เกิดกับเด็กไทย เด็กไทยไม่มีใครฝันแบบนี้ ตอนเด็กๆ ผมบอกว่าอยากขับรถไฟ มีแต่คนบอกว่าผมแปลก แต่ของญี่ปุ่นคือ ถ้าเขาอยากขับ มีคนสนับสนุน และเด็กที่ชอบรถไฟหลายคนในญี่ปุ่น โตมาก็ได้ทำงานรถไฟสมใจอยาก เพราะประเทศเขารถไฟคือชีวิต เขาถือนโยบายรถไฟสร้างชาติ เขาจึงต้องสร้างคน ความฝันของผมก็เลยอยากหากองหนุน เพื่อรวบรวมคนที่รักรถไฟ มีความรู้เรื่องรถไฟ มาช่วยกันพัฒนาวงการรถไฟไทยให้ดีขึ้นต่อๆ ไป”
และเราเองก็หวังจะเห็นเช่นนั้น…ด้วยเช่นเดียวกันกับแฮม-วันวิสข์ ผู้ที่มีรถไฟในชีวิต และปรารถนาจะเดินทางโดยรถไฟไปอีกนานแสนนาน นอกจากเหนือจดใต้ ตะวันออกจดตะวันตก ด้วยรถไฟครบทุกเส้นทาง ทุกประเภท อย่างที่เขาเคยเดินทางมาจนครบแล้ว คุยกันจบ เราดูเวลา ใกล้จะหกโมงเย็น เรื่องราวก็ถึงช่วงสุดท้ายพอดี แฮมทิ้งท้ายว่า “เรื่องรถไฟยังมีรายละเอียดอีกเยอะ ถ้ามีคนถามผมเรื่องรถไฟ ผมจะถามว่ามีเวลาว่างสักอาทิตย์หนึ่งมั้ย และชวนไปนั่งรถไฟกันคุยกันไปบนรถไฟด้วยเลย”