ประเพณีความเชื่อในช่วงคืนข้ามปี

คืนข้ามปีเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ผู้คนทั่วมุมโลกดื่มด่ำกับความสนุกสนานในเทศกาลงานเฉลิมฉลอง ทุกวันนี้หลายประเทศกลายเป็นฮ็อตสปอตของการเคาท์ดาวน์  แต่บางแห่ก็ไม่ได้อบอวลเพียงแค่ความสนุก ทว่ายังเต็มไปด้วยเรื่องราวของความเชื่อและประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งความเชื่อส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับการขอพรให้เป็นสิริมงคลกับชีวิต มีความสุข ร่ำรวย โชคดี สุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นที่ มาดริด-สเปน เม็กซิโก ซิตี้-เม็กซิโก โตเกียว-ญี่ปุ่น และ ริโอ เดอ จาเนโร-บราซิล ไปดูกันว่าบรรยากาศค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ทั้งสนุก และมีเรื่องราวความเชื่อเก่าแก่ของแต่ละประเทศจะน่าสนใจขนาดไหน

Madrid, Spain

เมืองหลวงของสเปนอย่างนครมาดริด จะทำให้ความทรงจำในค่ำคืนส่งท้ายปีของคุณไม่มีทางพร่าเลือนไปจากใจ เพราะที่นี่มีงานเฉลิมฉลองที่ไม่ซ้ำหน้ากับเมืองไหนในโลกในค่ำคืนที่ทุกคนออกมาฉลองปีใหม่บริเวณจัตุรัสปูเอร์ตา เดล โซล ที่เป็นเหมือนสะดือเมืองของมาดริด จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเรือนแสนจนแทบไม่มีที่ว่าง

ในค่ำคืนสุดท้ายของปี ชาวสเปนจะเตรียมองุ่นใส่ภาชนะตกแต่งไว้อย่างดี เมื่อเข็มนาฬิกาทั้งสั้นและยาวบรรจบกันตรงเลข ๑๒ ผู้คนจะกินองุ่น ๑๒ ลูก ที่เตรียมมาให้หมด โดยจะทยอยกินทีละลูกพร้อมกับเสียงนาฬิกาที่ตี ๑๒ ครั้ง พวกเขาเชื่อกันว่าองุ่นแต่ละลูกคือ เดือนทั้ง ๑๒ เดือน หากกินหมดจะทำให้โชคดีทุกเดือน นี่คือประเพณีที่ยึดถือกันมา ๑๐๐ กว่าปีแล้ว ที่เชื่อกันว่าถ้ากินหมดทุกคำอธิษฐานของคุณจะเป็นจริง และความที่มาดริดเป็นเมืองปาร์ตี้ที่มีผับบาร์นับหมื่นอยู่แล้ว ผู้คนก็ฉลองกันยันสว่าง นักท่องโลกคนไหนอยากสนุกตามแบบฉบับที่ของชาวกระทิงดุ ปีใหม่นี้ใครจะแพ็กกระเป๋าหนีตามมาดริดก็ไม่ว่ากัน ถ้าปีนี้ไม่ทันเตรียมไว้ปีก็ยังได้

Mexico City, Mexico

ถ้าใครมีโอกาสโฉบไปเที่ยวแถวอเมริกากลางช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ถือว่าเหมาะพอดีเลย ที่จะไปแวะไปเคาท์ดาวน์ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ที่นี่เขาฉลองปีใหม่กันอลังการเหมือนกัน โดยเฉพาะรอบๆ โซคาโล จะมีการจุดพลุและประทัดกันอย่างอึกทึก ธรรมเนียมฉลองปีใหม่แบบชาวเม็กซิกันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย ความที่เคยเป็นเมืองขึ้นของสเปน จึงมีมรดกตกทอดเป็นวัฒธรรมของสเปน นั่นคือกินองุ่น ๑๒ ลูกตอนเที่ยงคืน ระหว่างกินก็อธิษฐานไปด้วย ปีใหม่จะได้สมหวังทุกสิ่ง 

นอกจากเรื่องกินองุ่นแล้ว เขายังมีความเชื่อหลายอย่าง เช่น ถ้าอยากโชคดีเรื่องความรักในปีใหม่ต้องใส่อันเดอร์แวร์สีแดง ถ้าอยากมั่งคั่งร่ำรวยต้องใส่ชุดชั้นในสีเหลือง ยังมีเรื่องของแชมเปญที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง ชาวเม็กซิกันที่สืบทอดความเชื่อนี้มาจากชาวสเปน พวกเขาจะใส่แหวนทองลงในแก้วแชมเปญก่อนจะชนแก้ว เพราะเชื่อว่าการดื่มแชมเปญที่มีแหวนทองจะนำพาชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง น่าสนใจใช่ไหม ถ้างั้นก็เตรียมแพ็กกระเป๋าบินไปหาเม็กซิโกกันเถอะ

Tokyo, Japan

ประเทศญี่ปุ่นเขาฉลองเทศกาลปีใหม่กันแบบผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก และฉลองกันข้ามปีเลยทีเดียว เรียกว่าเริ่มกันตั้งแต่ ๒๙ ธันวาคมไปจนถึง ๔ มกราคม แต่ไฮไลต์ไปอยู่คืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ที่จะปลุกให้โตเกียวลุกขึ้นมาคึกคักสุดขีด

ฮ็อตสปอตอยู่ที่โตเกียวทาวเวอร์ เป็นมุมยอดนิยมที่ชาวญี่ปุ่นไปเคาท์ดาวน์กัน ส่วนแถวชิบูยาก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่คึกคักสุดๆ แต่ถ้าอยากจะฉลองปีใหม่สไตล์ญี่ปุ่น เขาต้องกินโซบะกันเพื่อให้มีสุขภาพดีและมีชีวิตยืนยาว แล้วก็ฟังเสียงระฆัง ๑๐๘ ครั้ง เพื่อให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู พวกเขาเชื่อกันว่า เสียงกังวานของระฆังจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและกิเลส เมื่อจิตใจขาวสะอาดก็ทำให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต โดยพระญี่ปุ่นจะตีระฆังถึง ๑๐๘ ครั้ง ซึ่งเป็นตัวแทนของกิเลส ๑๐๘ ประการ ทุกวันนี้หลายเมืองในญี่ปุ่นไม่ค่อยตีระฆังกันแล้ว แต่ที่เกียวโตยังรักษาประเพณีเก่าแก่นี้

จากนั้นในวันที่ ๑ มกราคม ผู้คนก็จะนิยมไปศาลเจ้าหรือวัดกัน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ปีใหม่นี้ใครอยากเคาท์ดาวน์แบบมีสตอรี่ ไปญี่ปุ่นกันเลย

Rio De Janeiro, Brazil

ริมชายหาดโคปาคาบานาแห่งนคร ริโอ เดอ จาเนโร ที่ว่ายาวเหยียดร่วม ๔ กิโลเมตร จะดูแคบไปถนัดตาเมื่อค่ำคืนของวันที่ ๓๑ ธันวาคมเดินทางมาถึง นี่คืองานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่เป็นรองแค่งานคาร์นิวัลในบราซิลเท่านั้น

ในคืนส่งท้ายปีแบบนี้นครเจ้าเสน่ห์อย่าง ริโอ เดอ จาเนโร จัดว่าเป็นหมุดหมายสำคัญของผู้ที่เฟ้นหามุมเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ของโลก และที่นี่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ว่ากันว่าแต่ละปีจะมีผู้คนราว ๒ ล้านคน มายึดหัวหาดกันบนชายหาดชื่อดังอย่างโคปาคาบานา ผู้คนจะเริ่มหนาแน่นตั้งแต่ ๒ ทุ่มเป็นต้นไป พวกเขามาฟังเพลงที่เล่นสดกันริมหาด ร้องเล่นเต้นระบำกันในจังหวะแซมบ้ากันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ซึ่งถ้าไปเคานท์ดาวน์ที่บราซิลก็จะเห็นผู้คนสวมเสื้อผ้าสีขาวเต็มไปหมด เพราะชาวบราซิลเชื่อว่าชุดสีขาวจะทำให้ชีวิตเกิดความโชคดี

นอกจากนี้ชาวบราซิลยังนิยมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยการกระโดดข้ามคลื่นให้ครบ ๗ ลูกไปพร้อมๆ กับการขอพร ๗ อย่าง โดยคลื่นแต่ละลูกเป็นตัวแทนความปรารถนาที่คาดฝัน เปรียบเสมือนคุณจะก้าวผ่านอุปสรรคทั้งหลายไปสู่ความสำเร็จนั่นเอง บราซิลอาจจะไกลหน่อย แต่ปีใหม่นี้เหาะเหินเดินอากาศไปหาบราซิลท่าจะดี

ยังมีอีกหลายประเทศที่มีประเพณีและความเชื่อเกี่ยวกับการฉลองปีใหม่ที่น่าสนใจ แต่ก่อนอื่นหามุมเหมาะเพื่อไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่นี้ก่อนจะดีกว่า