คุตบองหรือทุตตะบอง ซึ่งมีบุญญาธิการมากนั้น ครั้งหนึ่งพระองค์ได้บ้วนน้ำหมากลงบนพื้นดิน และด้วยฤทธานุภาพบันดาลให้ร้อนลงไปจนถึงบาดาล พญานาคทนไม่ไหวเห็นว่าถ้าปล่อยให้พระยาคุตบองบ้วนนน้ำหมากลงบนพื้นดินต่อไปอีก ตนเองก็จะหาความสุขไม่ได้ พญานาคจึงเอากระโถนสำหรับบ้วนน้ำหมากมาถวาย
กล่าวกันว่าด้วยเหตุนั้น เมื่อพระเจ้าแผ่นดินพม่าจพระราชทานเครื่องยศให้แก่ข้าราชการ ก็ประทานแต่พานหมาก คนโท และของอื่นๆ ตามแต่จะโปรด ส่วนกระโถนยังไม่ประทานให้ ถือว่าเป็นของมีศักดิ์สูง จะประทานให้ต่อภายหลัง
ตามประเพณีไทยโบราณก็ถือว่ากระโถนเป็นของสำคัญเช่นกัน ผู้มีบรรดาศักดิ์สูงเมื่อได้รับพระราชทานเครื่องยศพานทองก็ย่อมได้กระโถนทองด้วย (กระโถนลูกเล็กเพื่อเป็นเกียรติ) กระโถนทองนั้นก็ต่างกันอีกถ้าเป็นราชตระกูลเป็นกระโถนทองคำสลักลาย ถ้าไม่ใช่ราชตระกูลก็เป็นกระโถนทองคำพื้นเกลี้ยง ดูเหมือนจะมีระเบียบทางราชการกำหนดไว้จำได้แต่ว่ากระโถนก็เป็นเครื่องยศอย่างหนึ่ง
นอกจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่แล้ว พระภิกษุที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ก็มีเครื่องประกอบสมณศักดิ์หลายอย่างรวมทั้งกระโถนด้วย แต่ต่างไปจากกระโถนขุนนางคือ เป็นกระโถนเครื่องถมปัด ทำด้วยทองแดงเคลือบน้ำยาสี มีลวดลายต่างๆ ดูเหมือนสมณศักดิ์สูงจะมีกระโถนหลายชนิดเช่น กระโถนปากแตรอย่างใหญ่ กระโถนกลมอย่างกลาง กระโถนเล็กทรงกระทาย ถ้าเป็นตำแหน่งรองลงไปก็ลดจำนวนน้อยลงไปตามลำดับจนถึงตำแหน่งพระครูเหลือกระโถนเพียงลูกเดียว แม้กระนั้นถ้าเป็นพระครูต่างจังหวัดก็ยังเปลี่ยนจากกระโถนถมปัดเป็นกระโถนกระเบื้อง
ด้วยเหตุที่กระโถนมีความสำคัญดังกล่าวนี้เอง ในสมัยก่อนรูปถ่ายพระเถรานุเถระทั้งหลายจึงมีกระโถนวางประดับอยู่ข้างหน้า บางรูปก็มีขันน้ำพานรองด้วย
ในตอนต้นกล่าวไว้ว่า บ้านคนไทยจะมีกระโถนเพราะคนไทยกินหมากสิ่งที่เชิดหน้าชูตาก็คือเชี่ยนหมากกับกระโถน เพราะใช้รับแขกทุกวัน ตอนเป็นเด็กจำได้ว่ายังใช้กระโถนกระเบื้องลายประตูเมืองอยู่ แต่ภายหลังมีกระโถนสังกะสีเคลือบสีเข้ามาขาย ราคาถูก น้ำหนักเบา ผู้ใหญ่เห็นว่า