
ป่าชุมชนเกิดจากความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไม่ให้เข้ามาตัดไม้ในบริเวณป่าต้นน้ำแม่แทน จึงกลายเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นป่าพิธีกรรม ต่อมาความเชื่อและความกลัวก็กลายเป็นกฎระเบียบในการดูแลรักษาป่าแม่ทาและเป็นกฎระเบียบของชุมชน
แก้ปัญหาด้วยภูมิปัญญา
ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านแม่ทาในสมัยนั้นขอที่ดินแปลงเล็กๆ ไว้ โดยบอกว่าส่วนนี้เป็นป่าผีปู่ผีย่าอยากขอไว้เพราะเชื่อว่าผีป่าเจ้าที่แรงมาก หากใครแตะต้องจะมีอันเป็นไป แต่ในความจริง ป่าส่วนนั้นเป็นป่าต้นน้ำคือต้นน้ำแม่แทนที่มีน้ำไหลตลอดปีไม่เคยแห้ง และนั่นเองคือจุดกำเนิดแนวความคิดของชาวชุมชนว่า น่าจะนำป่าผืนนี้มาเป็นแม่แบบการอนุรักษ์ป่าไว้ให้ถึงลูกหลาน ต่อมาจึงกลายเป็นป่าต้นแบบในการจัดการป่าชุมชนของชาวบ้านตำบลแม่ทา
แนวคิดเรื่องป่าชุมชนจึงเกิดมาจากความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไม่ให้เข้ามาตัดไม้ในบริเวณป่าต้นน้ำแม่แทน จึงกลายเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นป่าพิธีกรรมต่อมาความเชื่อและความกลัวก็กลายเป็นกฎระเบียบในการดูแลรักษาป่าแม่ทาและเป็นกฎระเบียบของชุมชนแต่กระนั้นป่าผืนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่ก็เป็นพื้นที่ซึ่งมีการลักลอบตัดไม้เถื่อนอยู่เสมอ โดยพ่อค้าร่วมมือกับผู้มีอำนาจอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้การควบคุมดูแล

หากไม่สามารถทำให้คนทุกคนเป็นคนรักป่าได้ ก็ควรให้คนที่อยู่กับป่าได้ดูแลและรักษาป่าจริงๆ อย่างเคารพในภูมิปัญญาทรัพยากรธรรมชาติเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ป่าคงให้ประโยชน์กับผู้คนสืบไป
ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ป่าอุทยานแม่ตะไคร้และป่าอุทยานดอยขุนตาล ไม่เพียงพอต่อการป้องกัน ใน พ.ศ. ๒๕๓๓ ชาวบ้านในเขตตำบลแม่ทาจึงรวมตัวกันจัดตั้งคณะกรรมการดูแลรักษาป่า ตั้งด่านสกัดไม้เถื่อนที่ออกมาจากป่าอุทยานแม่ตะไคร้ ตั้งกฎระเบียบห้ามสมาชิกในตำบลทุกคนรับเงินจากนายทุนค้าไม้พลังแห่งความร่วมมือระหว่างผู้คนในชุมชนและเจ้าหน้าที่ป่าไม้อย่างจริงจังนี้เอง ทำให้สามารถหยุดอิทธิพลการทำไม้เถื่อนลงได้
กฎหมายป่าชุมชนจึงเป็นมิติใหม่ให้กับชาวบ้านที่ต้องอาศัยป่าในการดำเนินชีวิต ชุมชนต่อสู้นานนับสิบปีเพื่อให้มีกฎหมาย พ.ร.บ. ป่าชุมชนขึ้นรัฐบาลและหน่วยงานราชการกลับบอกว่าชาวบ้านร่างกฎเถื่อน ศาลเตี้ยขึ้นกันเองและไม่ได้รับการยอมรับ ชาวบ้าน
จึงพยายามร่างกฎหมายป่าชุมชนฉบับที่ประชาชนฉบับที่นี้ขึ้นอีกครั้ง ใน พ.ศ. ๒๕๓๒ แต่พระราชบัญญัติป่าชุมชนฉบับที่ประชาชนก็ยังไม่ผ่านมติสมาชิกวุฒิสภา “สิ่งที่ชาวบ้านคิด รัฐ, ส.ส., ส.ว., นักวิชาการ และนายทุนไม่เห็นด้วยพวกเขาหาว่าชาวบ้านเป็นมอด แมลงเอาไปไว้ในป่า ป่าก็วอด และกันชาวบ้านออกมาด้วยกฎหมายอนุรักษ์ป่าพื้นที่ทั้งตำบลแม่ทากลายเป็นเขตอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ คนพวกนี้ไม่เคยสัมผัสความจริง ไม่เคยเข้ามาดูป่าไม่เคยเห็นว่าป่าถูกทำลาย ทำลายอย่างไร การรักษาป่า รักษาอย่างไรกฎหมายของรัฐ เช่น กฎหมายป่าไม้ล้าหลังมาก นโยบายการอนุรักษ์ป่าของกรมป่าไม้ มันสวนทางกับคนในพื้นที่อย่างสิ้นเชิง” ผู้นำชุมชนท่านหนึ่งกล่าว