บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึ่งมีพื้นที่ปฏิบัติการส่วนใหญ่อยู่นอกชายฝั่ง ทะเล จึงเป็นเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลและชุมชนรอบชายฝั่งเป็นเสมือนเพื่อนบ้านที่อยู่ร่วมกัน สร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้จัดทำโครงการและกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศทางทะเล และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเรียกว่า “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) ทั้งนี้ ได้ร่วมมือกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หน่วยงานราชการสถาบันการศึกษา องค์กรต่างๆ และชุมชนซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่ง รวมทั้งได้นำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในมิติที่กว้างขึ้น
ปตท.สผ. เริ่ม “ทะเลเพื่อชีวิต” กับระบบการทำงานของบริษัทเองด้วย เช่น ในการผลิตปิโตรเลียม ปตท.สผ. ได้นำน้ำจากกระบวนการผลิตกลับเข้าสู่แหล่งกักเก็บปิโตรเลียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกระบวนการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้นำยานขับเคลื่อนใต้น้ำแบบอัตโนมัติ (AUV) มาใช้ในการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ใต้น้ำให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอ และอยู่ในระหว่างศึกษาการจัดวางปะการังเทียมรูปแบบโครงสร้างเหล็ก จากกระบวนการรื้อถอนสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ต่างๆ จากการผลิตปิโตรเลียม เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลต่างๆ
ต่อมาคือการตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทรและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อหาแนวทางการป้องกัน ฟื้นฟู ดูแล และอนุรักษ์ทะเลอย่างเป็นแบบแผนต่อไป สำหรับการฟื้นฟู ดูแล อนุรักษ์ทะเลบริเวณชายฝั่ง ปตท.สผ. ได้จัดทำโครงการเพื่อการป้องกันมลภาวะจากบนบกลงสู่ทะเล ด้วยการสร้างโมเดลการบริหารจัดการขยะทะเล รวมไปถึงการฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์พื้นที่ป่าชายเลน ซึ่ง ปตท.สผ. มีเป้าหมายปลูกป่าชายเลนกว่า ๕,๐๐๐ ไร่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ให้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเพื่อลดภาวะโลกร้อน
สำหรับการปกป้องสัตว์ทะเลหายาก เช่น เต่าทะเล ปตท.สผ. ได้สนับสนุนศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ สัตหีบ ในการปรับปรุงบ่ออนุบาลเต่าในช่วงวัยต่างๆ เพื่อเพิ่มอัตรารอดของลูกเต่า รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเต่าที่เจ็บป่วยและบาดเจ็บ
นอกจากนี้ได้ร่วมกับชุมชนจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ ส่งเสริมการทำประมงพื้นบ้านเชิงอนุรักษ์ โดย ปตท.สผ. มีเป้าหมายจะจัดตั้งศูนย์ฯดังกล่าวใน ๑๗ จังหวัดรอบอ่าวไทย ซึ่งปัจจุบันได้จัดตั้งแล้ว ๕ ศูนย์ฯ ในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ฯ ยังทำควบคู่ไปกับการวางซั้ง หรือบ้านปลา เพื่อเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยให้แก่สัตว์น้ำวัยอ่อน อีกทั้งยังสนับสนุนชุมชนตั้งกลุ่มอาชีพผลิตและจำหน่ายอาหารทะเล พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น และจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินค้าของผู้บริโภค
อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ดำเนินการมาเป็นเวลา ๑๐ ปีแล้วคือ โครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล ซึ่ง ปตท.สผ. ได้ร่วมกับกองทัพเรือ หน่วยงานราชการ องค์กร และชุมชน นำเรือรบหลวงที่ได้ปลดประจำการจากกองทัพเรือมาทำเป็นแนวปะการังเทียม โดยวางเรือหลวงปราบที่เกาะง่ามน้อย จังหวัดชุมพร และเรือหลวงสัตกูดที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ภารกิจ “ทะเลเพื่อชีวิต” ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ปตท.สผ. ยังมุ่งหวังที่จะเป็น “ศูนย์ข้อมูลทางทะเล” ที่เชื่อมโยงโครงข่ายข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล เพื่อร่วมกันพิทักษ์ อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เพื่อนบ้านของเราตามความมุ่งหมาย“ทะเลเพื่อชีวิต” ของเรา