ปัจจุบันเจ้าของเครือข่ายธุรกิจ ได้นำหลักการการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตครอบคลุมตลอดทั้งชีวิตวงจรผลิตภัณฑ์ หรือ Extended Producer Responsibility : EPR มาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรซึ่งหลักการดังกล่าวสอดคล้องกับการดำเนินงานของ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) หรือ ไทยเบฟ ที่ได้ยึดมั่นในหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนและคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกิดขึ้นจากบรรจุภัณฑ์นับตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการจัดบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคล่าสุดได้สนับสนุนการจัดงาน C asean Forum (CaF) ในหัวข้อ “ASEAN ActionTowards Circular Economy: Move Forward with Extended Producer Responsibility” จัดโดย ซีอาเซียน (C asean) ร่วมกับ เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network หรือTSCN) และ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue หรือ ACSDSD) ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินการเพื่อนำหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตหรือ Extended Producer Responsibility (EPR) มาใช้ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย
บรรยากาศงานในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ผลิต และเจ้าของเครือข่ายธุรกิจต่างๆ กว่า 300 ชีวิตตอบรับเข้าร่วม งานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรชั้นนำระดับโลกที่มาแชร์ประสบการณ์ และไอเดียกลยุทธ์เกี่ยวกับเรื่องราวการดำเนินธุรกิจ รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาในมุมของผู้กำหนดนโยบายและผู้ประกอบการ เรื่องบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เริ่มด้วย “คุณต้องใจ ธนะชานันท์” กรรมการผู้จัดการ ซี อาเซียน กล่าวต้อนรับและย้ำถึงความสำคัญของEPR ที่มีต่อการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในอาเซียนในขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังรับมือความท้าทายต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการของเสียและการลดลงของทรัพยากรอย่างรวดเร็ว
“ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศกำลังพิจารณาถึงการนำหลัก EPR มาใช้ตามบริบทของตัวเองการได้แบ่งปันประสบการณ์และตัวอย่างการดำเนินงานร่วมกันในวันนี้ จะช่วยผลักดัน EPR ให้ใช้ได้จริงและเกิดผลสัมฤทธิ์ในขณะที่หลายประเทศกำลังผลักดันเรื่องนี้ วันนี้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้าน EPR และเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งจะมาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและมอบแรงบันดาลใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในอาเซียน วิทยากรจากหลากหลายประเทศจะเล่าให้เราฟังถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนในภูมิภาคอาเซียนบทเรียนการขับเคลื่อน EPR ในยุโรป และ PanelDiscussion ที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการผลักดันEPR ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนและเราขอขอบคุณ ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue หรือ ACSDSDและ Thailand Supply Chain Network ที่เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย สำหรับการร่วมมือกันอย่างเต็มกำลังเพื่อช่วยให้งานครั้งนี้เกิดขึ้น เราหวังว่าการรวมตัวในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามร่วมกัน เพื่อผลักดันหลักการ EPR และบทเรียนต่าง ๆ ไปสู่นโยบายระดับประเทศ สู่มาตรฐานอุตสาหกรรม และสู่โครงการในระดับชุมชน ขอให้พวกเราผสานความร่วมมือกันด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ค่ะ”
ทางด้าน คุณปฏิญญา ศิลสุภดล รองเลขาธิการและคณะกรรมการบริหารสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “EPR คือ หลักการเพื่อให้ผู้ผลิตมีความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์ของตนร่วมกันตลอดห่วงโซ่
ในประเทศไทยเราไม่ได้โฟกัสอยู่ที่การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่คำนึงตั้งแต่การออกแบบการสื่อสารกับผู้บริโภคเกี่ยวกับการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังใช้งาน ระบบการรวบรวมเพื่อคัดแยกและนำบรรจุภัณฑ์กลับมารีไซเคิลในปัจจุบันภาครัฐกำลังขับเคลื่อนเรื่องกฎหมาย EPRโดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมกันสร้างระบบเก็บกลับที่มีประสิทธิภาพ ถ้าเรามีกรอบกฎหมาย EPR ที่ชัดเจน จะทำให้เห็นผลว่า การเก็บกลับอย่างมีประสิทธิภาพ ได้วัสดุที่มีคุณภาพเข้าระบบส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตลดลง หากไม่มีระบบที่ดี อนาคตเราอาจจะไม่มีวัตถุดิบกลับมาใช้อาจจะต้องเสียภาษีหรือค่ากำจัด ค่าจัดการบางอย่าง ดังนั้นเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนEPR คือหลักการที่จะทำให้ภาคเอกชนเข้ามาทำงานร่วมกันและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นครับ”
ในส่วนของการเสวนาในช่วงเช้า คุณ Kai Hofmann Program Head จาก GIZ แบ่งปันมุมมองในหัวข้อ ‘Circular Economy for the ASEAN Region’ ว่า “ปัจจุบันมีการพูดถึงEPR อย่างกว้างขวางว่าเป็นแนวปฏิบัติสำหรับการออกแบบเพื่อรีไซเคิลเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วเป้าหมายสูงสุดของเรา คือการนำวัสดุไปรีไซเคิล และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ตอนนี้มีหลายเครือข่ายธุรกิจต่างก็เริ่มผลักดันให้เกิดการดำเนินการเกี่ยวกับ
EPR ในภูมิภาคอาเซียนทำให้ตอนนี้เกือบทุกประเทศมีเครือข่าย EPR แบบอาสาซึ่งทำให้เห็นว่าพวกเราทุกคนรวมถึงภาคเอกชนยินดีที่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ดังจะเห็นได้ว่า องค์กรที่รับผิดชอบการจัดการบรรจุภัณฑ์ หรือ PRO เป็นหัวใจของการขับเคลื่อน EPR โดยควบคุมดูแลทั้งระบบตั้งแต่กระแสการเงินและการไหลของเสีย รวมไปถึงการรับผิดชอบการจดทะเบียน การบริหารจัดการ รวบรวมข้อมูล ให้ความรู้กำกับดูแล บริหารการเงินและจัดทำรายงาน”
ต่อด้วยการแชร์ประสบการณ์และตัวอย่างการดำเนินงานในยุโรปในหัวข้อ “EPR Learning from EU Experiences” โดย ผศ.ดร.ปเนต มโนมัยวิบูลย์ ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับโครงการ EU SWITCH-Asia Programme ซึ่ง ดร.ปเนต ยังได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในPanel Discussion หัวข้อ “Promoting EPR Across ASEAN” ร่วมกับ คุณ Carlo Delantar จาก Circular Economy Philippines และ Gobi Partners คุณ Rocky Pairunan จาก WRI Indonesia และ ดร.แอนโทนี่ ประมวลรัตน จาก ACSDSD ส่วนงานเสวนาในช่วงบ่าย เริ่มด้วยหัวข้อ “Thailand National EPR” โดย คุณปฏิญญา ศิลสุภดล รองเลขาธิการ ส.อ.ท ดูแลสายงาน TIPMSE ต่อด้วยการบรรยายในหัวข้อ “Financial Mechanism for Thailand’s Circular Economy:Regulatory Perspective” โดย คุณปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดี กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และหัวข้อ “Financial Mechanism for Thailand’s Circular Economy : Funding Perspective” โดย คุณ Rieko Kubota วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมอาวุโสจาก The World Bank ปิดท้ายด้วย Practitioner Panel Discussion ในหัวข้อ “Advancing Sustainable Recycling” ซึ่งได้รับเกียรติจากตัวแทนของบริษัทชั้นนำที่ผลักดัน EPR อย่างต่อเนื่องประกอบด้วย คุณสุนทร ยงค์วิบูลศิริ ผู้อำนวยการ ESG and Sustainability จาก บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) คุณสลิลลา สีหพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด คุณกิติยา แสนทวีสุข Head of Sustainability จากบริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด และ คุณวิจิตรา สุภาคง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความยั่งยืนและความเสี่ยง บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ภายในงาน ได้มีการจัดแสดงบูธจากองค์กรชั้นนำ อาทิ เครือข่ายห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทยTSCN) บริษัท พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซัสเทนอะบิลิตี้ เอ็กซ์โป จำกัด ศูนย์ซี อาเซียน ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ACSDSD) สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อ ม(TIPMSE) บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด บริษัท เวสต์ร๊อค (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท เอ็กโคแล็บ จำกัด และบริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัดนับเป็นอีกหนึ่งงานเสวนาที่ตอบโจทย์เรื่องการขับเคลื่อนอาเซียนไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนและประเทศไทยในการพัฒนาที่ยั่งยืนและการจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตที่เศรษฐกิจหมุนเวียนจะไม่เป็นเพียงแนวคิด แต่เป็นความจริงที่เราต้องสร้างร่วมกัน