

ด้วยเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของ ปตท.สผ. ที่จะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลที่เหมาะสมในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (Right Balance) และคุณค่าร่วมแก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน ปตท.สผ. จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการก๊าซเรือนกระจกและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) สอดคล้องกับทิศทางของโลกในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รวมถึงเป้าหมายของประเทศไทยที่ประกาศเจตนารมณ์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ณเมืองกลาสโกว์เกี่ยวกับการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ในปี ๒๕๙๓ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero greenhouse gas emissions) ในปี ๒๖๐๘
ปตท.สผ. ได้วางแนวทางการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านแนวคิด EP Net Zero 2050 โดยตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ๒๕๙๓ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) ครอบคลุม Scope 1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง และ Scope 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานในธุรกิจสำรวจและผลิปิโตรเลียม
ซึ่ง ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ (Operational Control) และยังได้กำหนดเป้าหมายเพื่อลดปริมาณความเข้ม (Intensity) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ภายในปี ๒๕๗๓ และร้อยละ ๕๐ ภายในปี ๒๕๘๓ (จากปีฐาน ๒๕๖๓) เพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ตามเป้าหมายในปี ๒๕๙๓ ดังกล่าว
แนวทางการดำเนินการผ่านแนวคิด

E Exploring for Lower Carbon E&P Portfolio
บริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P Portfolio) เพื่อมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ โดยเลือกลงทุนในโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero GHG Emissions และเน้นการลงทุนในโครงการก๊าซธรรมชาติ โดยนำปัจจัยเกี่ยวกับความเข้มของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาพิจารณาประกอบการลงทุนในโครงการใหม่ๆ

P Production and Planet in Balance
พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต โดยเดินหน้าโครงการการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และนำไปกักเก็บ (Carbon Capture and Storage-CCS) ยังชั้นใต้ดินในพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ ในอ่าวไทยและประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ในปริมาณมาก นับเป็นการทำโครงการลักษณะนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้ศึกษาโอกาสและเทคโนโลยีที่จะนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ประโยชน์ (Carbon Capture and Utilization-CCU) โดยเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าหรือวัสดุเพื่ออนาคต
บริษัทฯ ยังมุ่งสู่การปล่อยก๊าซส่วนเกินซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตปิโตรเลียมเป็นศูนย์ (Zero Routine Flare) สำหรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคต โดยการนำก๊าซที่เกิดขึ้นจากการเผาทิ้งในกระบวนการผลิตปิโตรเลียมกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยี CCS รวมทั้งการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ และกังหันลม รวมถึงการหาโอกาสในการใช้พลังงานรูปแบบใหม่ในอนาคต เช่น ไฮโดรเจน เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างสมดุลด้วยการปลูกป่า ทั้งป่าบกและป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับก๊าซเรือนกระจก (Carbon Removal Project) โดยมีเป้าหมายในการดูดซับก๊าซเรือนกระจกสะสมกว่า ๒ ล้านตันในปี ๒๕๙๓ และดำเนินโครงการเพื่อสังคมภายใต้กลยุทธ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่ระบบนิเวศใต้ทะเล ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญมาก