Wednesday, December 11, 2024
เพื่อสังคม KBANK ADVERTORIAL

เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ บ่มเพาะความรู้ทางธุรกิจ สร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เยาวชน

เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ บ่มเพาะความรู้ทางธุรกิจ

สร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เยาวชน

เพราะเชื่อว่าระบบการศึกษาที่ดีย่อมส่งผลต่อความคิดของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความยั่งยืนในอนาคต รวมถึงจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้

ด้วยแนวคิดนี้ของ คุณบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย ทำให้ตลอดเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา ธนาคารกสิกร ไทยจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน โดยริเริ่มโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาขึ้นในปี ๒๕๕๖ ทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันด้วยการก่อตั้งมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา โดยมี ดร. อภิชัย จันทรเสน ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิ และ คุณขัตติยา อินทรวิชัย ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการมูลนิธิ พร้อมกันนี้ได้จัดกิจกรรมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ ๑ ภายใต้แนวคิด “๖๖ วันเรียนรู้ชีวิต ทำธุรกิจให้เป็นจริง” ที่นอกจากเยาวชนจะได้องค์ความรู้ใหม่ ได้ประสบการณ์จากการสร้างโมเดลธุรกิจให้เป็นจริงแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย

ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา เล่าถึงภารกิจของมูลนิธิฯ และเป้าหมายของโครงการเพาะพันธุ์​ปัญญาแคมป์ว่า “โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาเมื่อ ๑๐ ปีก่อนจัดขึ้นทั่วประเทศ และช่วง ๓ ปีสุดท้ายของโครงการฯ (จนถึงปี ๒๕๖๕) จัดขึ้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้พบว่า เด็กที่เข้าร่วมโครงการเกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการความคิดอย่างเห็นได้ชัด มีตรรกะทางความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และมีการแก้ไขปัญหาที่ทำได้ตรงจุด ซึ่งในอนาคตหากเยาวชนไทยมีแนวความคิดแบบนี้ เชื่อได้เต็มร้อยเลยว่า พวกเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมพัฒนาประเทศให้มีความยั่งยืนได้”

เราได้ก่อตั้ง “มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา” เมื่อปลายปี ๒๕๖๕ เพื่อให้เกิดความ ต่อเนื่องและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด โดยวัตถุประสงค์หลักของมูลนิธิฯ คือการ “ให้” เป็นการให้ทั้งองค์ความรู้ ทักษะใหม่ และประสบการณ์จริงแก่เยาวชนที่มีความสนใจอยากทำธุรกิจ ฉะนั้น ๓ เรื่องหลักๆ ที่เขาจะได้รับจาก เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์คือ ความรู้ใหม่ในการทำธุรกิจ ทักษะในการทำธุรกิจ และโอกาสในการลองผิดลองถูกจากการลงมือทำธุรกิจจริง ซึ่งสิ่งนี้จะไปอยู่ในกระบวนความคิดของน้องๆ เป็นประสบการณ์ที่จะได้ติดตัวไปตลอดชีวิต”

โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ ๑ จัดให้แก่เยาวชนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๕ ซึ่งเคยผ่านห้องเรียนเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรียนละ ๕ คน จาก ๘ โรงเรียนในเมืองและพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดน่าน รวม ๔๐ คน ที่มีความคิดก้าวหน้า พร้อมเรียนรู้การทำธุรกิจ และต้องการเป็นผู้ประกอบการมาร่วมแคมป์ระหว่างวันที่ ๒๓ มีนาคม-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖ รวม ๖๖ วัน

โดยโรงเรียนที่เข้าร่วมแคมป์ประกอบด้วย ๑. โรงเรียนศรีสวัสดิ์ วิทยาคาร อ.เมืองน่าน ๒. โรงเรียนสา อ.เวียงสา ๓. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๖ อ.เวียงสา ๔. โรงเรียนปัว อ.ปัว ๕. โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา ๖. โรงเรียนเชียงกลาง ประชาพัฒนา อ.เชียงกลาง ๗. โรงเรียนพระธาตุ พิทยาคม อ.เชียงกลาง และ ๘. โรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี อ.นาหมื่น

ดร.อดิศวร์ยังได้เล่าถึงเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ดีของเยาวชนว่า “เรานำสิ่งที่จะ เกิดขึ้นในอนาคตมาให้เขาเรียนรู้และรับประสบการณ์จริง อย่างน้อยองค์ความรู้เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสามารถ ตัดสินใจได้ ส่วนการจะทำธุรกิจหรือจะเป็นนักธุรกิจหรือไม่ในอนาคตขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขาเอง” เยาวชนเหล่านี้จะได้ความรู้ตั้งแต่การสร้างสรรค์และทดสอบไอเดียธุรกิจ การเปลี่ยนไอเดียธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง ได้ความรู้ ด้านการตลาดและการเงินสำหรับผู้ประกอบการ การสร้างแผนและพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ตลอดจนความรู้ทักษะชีวิต พื้นฐาน ทั้งภาวะผู้นำ การสื่อสาร การนำเสนอจากวิทยากรมืออาชีพและกูรูด้านธุรกิจระดับประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการ ในจังหวัดน่าน เพื่อเสริมสร้างทักษะและศักยภาพของเยาวชนให้สามารถสร้างโมเดลธุรกิจให้เป็นจริงในรูปแบบบริษัท โดยมูลนิธิฯ จะสนับสนุนทุนเริ่มต้นในการทำธุรกิจ และมีรางวัลให้แก่ทีมที่มีผลงานยอดเยี่ยม รวมทั้งมีทุนสนับสนุนการพัฒนาโรงเรียนต้นสังกัดอีกด้วย

น้องจีโน่-จิระศักดิ์ แดงต๊ะ โรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี อยากทำธุรกิจด้านอาหาร “การเข้าร่วมแคมป์ช่วยให้เข้าใจการทำธุรกิจมากขึ้น ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายว่าจะประกอบธุรกิจอะไร ทำเพื่อใคร และมีกระบวนการผลิตอย่างไร อีกความรู้ใหม่ที่ได้คือ เรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่าย เช่น ค่าแรง ค่าซื้อวัตถุดิบ บางเรื่องที่เราคิดไม่ถึงก็ได้เรียนรู้ ยิ่งได้รับฟังมุมมองของนักธุรกิจและกูรูตัวจริง ได้รู้ว่าบางท่านตอนเด็กๆ ไม่ได้เรียนเก่งแต่สามารถประสบความสำเร็จได้ บางคนเรียนเก่งมาทำงานก็ยังมีพลาดและล้มเหลว แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้ตัวเองมีกำลังใจมากขึ้น ในเรื่องการทำงานเป็นทีม หากเราแบ่งคนให้ถูกกับงาน ทุกอย่างก็จะไปได้เร็วและดี เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะนำไปใช้แน่นอน”

น้องนับหนึ่ง-เพชรชรินทร์ คำพุฒ โรงเรียนสา อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ “อย่างที่ท่านบัณฑูร ล่ำซำ บอกว่าพูดน่ะง่าย แต่ลองทำให้เห็นหน่อย ค่ายนี้ทำให้เราได้มาสัมผัสจริงทั้งการคิด การวางแผนจะทำอย่างไร การคำนวณต้นทุน ราคา ได้ประสบการณ์จริงๆ ซึ่งคิดว่าเป็นอะไรที่ดีมาก สำหรับเราที่เติบโตมาในครอบครัวเกษตรกร ไม่ได้มีต้นทุน แต่คิดว่าน่าจะทำได้ ค่ายนี้ทำให้ความฝันที่เคยคิดว่ายิ่งใหญ่ ไกลตัว มันก็ดูใกล้เข้ามานิดหนึ่ง จากที่ไม่เคยคิดมาก่อนเกี่ยวกับการหาเป้าหมาย ก็ต้องคิดให้มีหลักการมากขึ้น คิดถึงความเป็นจริงในการทำ ซึ่งคิดว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้เยอะมากทั้งในห้องเรียนและการทำธุรกิจในอนาคต”      

สำหรับเยาวชนทั้ง ๘ ทีม ได้สร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจที่น่าสนใจ ๘ ธุรกิจซึ่งทั้ง ๘ ธุรกิจจะได้รับการตอบรับแค่ไหนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ต้องมาติดตามให้กำลังใจกับน้องๆ กัน

About the Author

Share:
Tags: KBank / เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ / เยาวชน / Cultivation of Wisdom / การศึกษา / เรียนรู้ /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ