สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมจัดงานเสวนา “ฉากทัศน์อนาคตสังคมไทย” หัวข้อ “เราจะร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้อย่างไร” เพื่อสะท้อนถึงสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกันในสังคมไทยอย่างยั่งยืน โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน นำโดย คุณอานันท์ ปัญยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีที่จะมาปาฐกถานำเรื่อง “ฉากทัศน์อนาคตสังคมไทย” และคุณมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้ง และนายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน พร้อมด้วย นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป คุณประสาร มฤคพิทักษ์ และคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
คุณมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้ง และนายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน เผยว่า “เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี ของสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ผมต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ทุกภาคส่วนที่ได้ให้การสนับสนุนการทำงานด้วยความเป็นมิตรมาโดยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และในโอกาสนี้เราได้มีความตั้งใจที่จะจัดงานเสวนา “ฉากทัศน์อนาคตสังคมไทย” หัวข้อ “เราจะร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้อย่างไร” นอกจากเพื่อเป็นการสะท้อนถึงสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกันในสังคมไทยอย่างยั่งยืน ยังเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของสมาคมพัฒนาพัฒนาประชากรและชุมชนในการเป็นผู้นำในการพัฒนาสังคมที่มุ่งขับเคลื่อนการทำงานมิติต่างๆ เพื่อช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคมไทยมาโดยตลอด 50 ปี ที่ผ่านมา
โดยตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา สมาคมพัฒนาพัฒนาประชากรและชุมชน มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานในการพัฒนาสังคมมิติต่างๆ เพื่อที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคมไทย เริ่มตั้งแต่ ลดการเกิดและให้เกิดอย่างมีคุณภาพ ด้วยงานวางแผนครอบครัว และงานอนามัยเจริญพันธุ์ ลดการตาย ด้วยงานด้านสาธารณสุข การป้องการติดเชื้อเอชไอวี ลดความยากจน ด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ โดยร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชน ลดความเขลา ด้วยการจัดตั้งโรงเรียนมีชัยพัฒนา ให้เป็นโรงเรียนต้นแบบที่ถูกนำแนวคิดและรูปแบบไปใช้ในโรงเรียนต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และยังได้ลดความเห็นแก่ตัว ด้วยการปลูกฝังการมีจิตสาธารณะ การรู้จักแบ่งปันและความซื่อสัตย์ นอกจากนี้แล้วยังมีงานสำคัญที่ได้ทำช่วงหนึ่ง คือ การให้ความเหลือช่วยผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาในปี 2523 และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิที่ภาคใต้ในปี 2548
งานอีกชิ้นที่สำคัญของสมาคมคือ การตั้งโรงเรียน และการทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้ของชุมชนบริเวณรอบโรงเรียน โดยเฉพาะในเรื่อง การสร้างความมั่นคงด้านอาหารและรายได้สำหรับผู้สูงอายุ โดยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ร่วมกับวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลประจำตำบล และอสม. ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชุมชนชนบท ซึ่งอดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข พลเรือตรี นายแพทย์วิทุร แสงสิงแก้ว ได้ระบุไว้ในหนังสือชื่อไผ่นอกกอว่า “อาสาสมัครวางแผนครอบครัวชุมชนของสมาคมฯ เมื่อปี 2518 เป็นต้นกำเนิดของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในประเทศไทยในเวลาต่อมา”
และในอนาคตจากนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมที่จะมุ่งมั่น และร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความตั้งใจ ร่วมกับหน่วยงานเอกชนสาธารณประโยชน์ หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจเอกชนอื่น ๆ เพื่อต่อยอดงานที่ได้ทำมาแล้ว เพื่อให้คนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมให้กลุ่มผู้สูงอายุมีความมั่นคง และโอกาสได้กลับเข้าสู่ระบบการผลิตในชุมชนชนบท โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงด้านอาหารและรายได้ โดยการทำงานของสมาคมฯ ยังเป็นการผสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจเอกชนอื่นๆ เพื่อต่อยอดงานต่างๆ ที่ได้ทำมาแล้วให้บรรลุเป้าหมายในอีก 50 ปีต่อไป เพื่อให้คนในสังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน