Mekha V ได้เริ่มดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2565 เกิดจากการควบรวมของ 2 บริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่ม AI Robotics and Digitalization ของ ปตท. ได้แก่ บริษัท เมฆาเทคโนโลยี จำกัด (Mekha Tech) เชี่ยวชาญด้าน Cloud Innovation และบริษัท รี แอค จำกัด (ReAcc) เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มเทรดพลังงานหมุนเวียนและ Carbon Neutrality โดย Mekha V มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับและต่อยอด New S Curve รูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. ปัจจุบัน Mekha V ให้บริการ 5 ด้าน ดังนี่
PowerTECH มุ่งใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะ Smart Energy Platform นำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการพลังงานตามแนวทาง Net Zero Carbon ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถวางแผนการใช้พลังงานในพื้นที่ สามารถตรวจติดตามการใช้พลังงานแบบ Real Time Monitoring สามารถทำ Energy Optimization รองรับการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer และการซื้อขาย Renewable Energy Certificate (REC) รวมถึงสามารถจัดทำรายงานความเป็นกลางทางคาร์บอนในแต่ละพื้นที่ได้
MobilityTECH เทคโนโลยีสนับสนุนธุรกิจยานยนต์ เช่น Telematic, Mapping Data, เซ็นเซอร์อัจฉริยะ เป็นต้น เพื่อรองรับรถยนต์ที่มีความ SMART มากขึ้น จากชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ โดยนำระบบ AI มาช่วยทั้งในเรื่องระบบขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์สันดาปภายใน ICE และรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทาง Arun Plus ดำเนินการอยู่ อีกทั้งจะส่งเสริมให้ประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ของอาเซียน
HealthTECH เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ บริการพบแพทย์ผ่อนช่องทางออนไลน์ เสมือนมีแพทย์ประจำตัว เพื่อรักษาสมดุลของสุขภาพที่แข็งแรงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยดำเนินการตั้งแต่การให้คำแนะนำจนกระทั้งการรักษาและติดตามผล ให้บริการพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้านสุขภาพเช่น อาหารสุขภาพ กิจกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพหรือปัญหาสุขภาพนำมาประมวลผลเพื่อวิเคราะห์สาเหตุรวมไปถึงการจ่ายยาและติดตามผลด้วยระบบ AI แบบครบวงจร
IndustrialTECH ยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ไปสู่ อุตสหกรรม 4.0 ด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะสนับสนุนอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไทย ผ่านการส่งเสริมความรู้ และการสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีและบริการต่างๆครบวงจร อาทิเช่น Cloud: ที่จะสนับสนุนการเก็บรวบรวมข้อมูลของอุตสาหกรรมต่างๆอย่างเป็นระบบ รวมถึงรองรับความต้องการทำ Centralize data ของแต่ละบริษัทMachine learning & AI: หนึ่งในหัวใจของการวางแผนซ่อมบำรุงโดยการทำ Prediction maintainace เพื่อช่วยในการลดต้นทุนการซ่อมบำรุงAdvance factory: เพื่อปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมให้ไปสู่การควบคุมด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติ โดยครอบคลุมทั้ง ส่วนการผลิต คลังพัสดุ และการขนส่งภายในโรงงาน System & Innovation Integrator สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญผ่านการให้คำปรึกษาตลอดจนการติดตั้ง รวมถึงการเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรม
CreativeTECH ยกระดับธุรกิจครีเอทีฟของประเทศไทยให้ตอบสนองความต้องการของตลาดสากล เสริมสร้าง Soft power ของประเทศไทยให้เข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลาง Creative hub ในระดับอาเซียน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยผลักดันให้ประสบความสำเร็จ โดยเริ่มตั้งแต่ โครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และคอมมูนิตี้ สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน มีการใช้เทคโนโลยี Cloud และ Blockchain เข้ามาเก็บข้อมูล ซึ่งมีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน ซึ่งสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดทำแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ อาทิ แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง นอกจากนี้เรายังให้บริการทำ Outsource Studio for Gaming & Virtual Production, Virtual Marketplacev และ AR Content Platform เป็นต้น มีการจัดทำ Community ให้บริการ CRM การจัดงานต่าง ๆ รวมไปถึงการทำ Brand Royalt
ทำความรู้จักกับ Renewable Energy Certificates (RECs)
RECs ย่อมาจาก Renewable Energy Certificates คือ ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน ที่ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถอ้างสิทธิ์ในการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้อย่างน่าเชื่อถือ มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งผู้ใช้งาน RECs มักเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีนโยบายต้องการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดแบบ 100% เช่น Apple, Microsoft, Uniqlo และ Google เป็นต้น โดยในบางประเทศ RECs ยังมีส่วนในการช่วยลดภาษีจากการใช้พลังงานหมุนเวียนได้อีกด้วย
เป็นหนึ่งในมาตรฐานการรับรองของคุณลักษณะทางพลังงาน หรือ Energy Attribute Certificate (EAC) โดยมี The International REC Standard (I-REC) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหน่วยงานรับรอง RECs อย่างเป็นทางการ ซึ่งในประเทศไทยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ให้การรับรอง RECs (Issuer) แต่เพียงผู้เดียว
ผู้ที่เกี่ยวข้องในการซื้อขาย RECs ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก
– Participant (ผู้ซื้อ) คือ หน่วยงาน หรือองค์กร
– Registrant (ผู้ขาย) คือ กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และได้ขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าไว้ในระบบ Registry ของมาตรฐาน I-REC
– Issuer (ผู้ให้การรับรอง) คือ ผู้ให้ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs)
โดยหน่วยการซื้อขาย คือ REC ที่คำนวณจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจริง ซึ่ง 1 REC จะมีค่าเท่ากับใบรับรองสำหรับการผลิตไฟฟ้าหลังงานสะอาด 1 MWh (1 REC = ไฟฟ้า 1 MWh) แต่ทั้งนี้วิธีการคำนวณจะขึ้นอยู่กับค่า Emission Factor ของแต่ละประเทศด้วยครับ
ประโยชน์ของการรับรอง RECs
- มั่นใจได้ว่าไฟฟ้าถูกผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่น่าเชื่อถือและได้รับมาตรฐาน
- สามารถระบุประเภทของแหล่งผลิตพลังงานหมุนเวียน เวลาการผลิตพลังงานหมุนเวียน และตำแหน่งของผู้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ
- เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
- นอกจากนี้ RECs ยังตอบโจทย์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขอบเขตที่ 2 ตามหลัก Scope of Emissions คือ การลดการปล่อยทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Energy Indirect Emissions) ได้แก่ ไฟฟ้า, ไอน้ำ, ความร้อน, และความเย็น
โดยทาง Mekha V เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ReAcc ที่ช่วยจับคู่ผู้ซื้อกับผู้ผลิตพลังงานที่มี RECs รองรับ เป็นแพลตฟอร์มที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ปตท. และ The I-REC Standard ที่ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยและผู้ที่สนใจพลังงานหมุนเวียน ได้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดและแสดงจุดยืนด้านการลดพลังงานภายในบริษัท ช่วยให้ใช้พลังงานสะอาดร่วมกันได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
แพลตฟอร์ม ReAcc คืออะไร? ทำอะไร?
แพลตฟอร์ม ReAcc จึงเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางที่คอยเชื่อมต่อผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนในชุมชนกับบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติ เรามุ่งหวังที่จะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทและชุมชนอย่างยั่งยืน
Mekha V สนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพดีที่สุด ทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) ของกลุ่ม ปตท.