Tuesday, February 18, 2025
เพื่อสังคม DTGO

ป่ามิยาวากิและการกลับมาของพันธุ์ไม้ท้องถิ่นในเขตบางนา

MIYAWAKI FOREST

นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 60

“การปลูกป่าแบบ  ‘มิยาวากิ’ เป็นแนวทางการสร้างองค์ประกอบของระบบนิเวศให้สมบูรณ์ กล่าวคือ ต้นไม้ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตในระบบนิเวศ เมื่อต้นไม้เติบโตขึ้นจะสร้างสายใยหลากหลายสายพันธุ์เป็นสังคมพืชที่สมบูรณ์ก่อให้เกิดเป็นป่าตามธรรมชาติ เป็นที่ดำรงอยู่ของสัตว์ป่า”

นี่เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดการปลูกป่ามิยาวากิ (Miyawaki’ forests) โดย ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ (Prof. Dr. Akira Miyawaki) ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยานานาชาติประจำประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับจากนักนิเวศวิทยาทั่วโลก และยังเป็นที่มาของแนวคิด “ระบบนิเวศที่แท้จริงจะทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ ดำรงอยู่ได้โดยธรรมชาติ” ป่ามิยาวากิ หรือ Eco Forests คือป่าที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเลียนแบบโครงสร้างป่าธรรมชาติ เพื่อให้ได้ป่าในระยะเวลาอันสั้น ภายใน10 ปี โดยการปลูกด้วยต้นกล้า ในพื้นที่ 1 ตารางเมตรจะประกอบไปด้วยพรรณไม้ 4 ชั้นเรือนยอด คือ พันธุ์ไม้ชั้นเรือนยอดสูงสุด (Tree1) พันธุ์ไม้ชั้นรอง (Tree2) ไม้พุ่ม (Shrub) และไม้คลุมดิน (Herb) ซึ่งเป็นลำดับชั้นตามโครงสร้างป่าธรรมชาติที่แท้จริง แตกต่างจากการปลูกป่าเชิงเดี่ยวหรือการจัดสวนป่าอย่างที่พบเห็นได้ตามสถานที่ต่างๆ ความสวยงามของป่ามิยาวากิจึงเป็นการสร้างความสมบูรณ์ของต้นไม้ที่ไล่ระดับสูงต่ำเหมือนป่าธรรมชาติไม่เป็นระเบียบแบบแผน ไม่เป็นเส้นตรง ไม่เป็นแถวเป็นแนวแต่ให้ความร่มรื่นร่มเย็นในแบบที่ป่าธรรมชาติมอบให้กับมนุษย์

นอกจากการสร้างระบบนิเวศเพื่อให้เกิดความสมดุลในพื้นที่ 1 ตารางเมตร อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการปลูกป่ามิยาวากิคือ “พันธุ์ไม้ท้องถิ่น” ต้องเป็นพันธุ์ไม้สังคมเดียวกันตามธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่นั้นๆ โดยไม่ผ่านการโยกย้ายมาจากต่างถิ่น เป็นการสร้างสังคมป่าให้เกิดการเกื้อกูลกันและกัน การปลูกป่ามิยาวากิยังเป็นรูปแบบหนึ่งของการฟื้นคืนชีพของสังคมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่บางครั้งอาจจะสูญหายไปจากพื้นที่เดิม ซึ่งต้องออกไปเสาะแสวงหาค้นคว้าให้ถึงต้นกำเนิดที่ยังหลงเหลือแล้วนำกลับมาสร้างระบบนิเวศในพื้นที่ที่เคยเป็นป่าให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

เราจะปลูกป่ามิยาวากิ ให้เป็นป่าที่สร้างระบบนิเวศด้วยตัวเองได้ อย่างไร จากคำถามนี้  จึงอยากขอชวนทุกคนให้ลองไปสำรวจ และทำความรู้จักกับ 8 หลักการที่เกิดขึ้นในโครงการป่าในเมือง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (The Forestias by MQDC)’ ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยป่ามิยาวากิ ที่แค่คุณเดินออกจากบ้าน ก็สามารถสัมผัสความร่มรื่นของป่ามิยาวากิได้บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ที่มีระบบนิเวศอันสมบูรณ์และเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าตามธรรมชาตินานาชนิด อีกทั้งยังเป็นโครงการแรกของโลกที่นำธรรมชาติสัตว์ป่า และมนุษย์มาอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันภายใต้คอนเซ็ปต์ “Imagine Happiness – ความสุขที่แท้จริง” 

8 หลักการสำคัญของการปลูกป่ามิยาวากิ
ที่ The Forestias นำมาใช้สร้างป่าอันรื่นรมในโครงการ

1. ปลูกพันธุ์ไม้ 4 ชั้นเรือนยอด (Multi-layer)

ในการปลูกป่ามิยาวากิเป็นการปลูกต้นไม้ตามโครงสร้างของป่าธรรมชาติซึ่งประกอบด้วยพันธุ์ไม้ 4 ชั้นเรือนยอด ได้แก่พันธุ์ไม้ชั้นเรือนยอดสูงสุด (Tree1) พันธุ์ไม้ชั้นรอง (Tree 2) ไม้พุ่ม (Shrub) และไม้คลุมดิน(Herb) แต่ละชั้นจะสร้างเลเยอร์เป็นลำดับชั้น ทำให้ต้นไม้สามารถอยู่ด้วยกันได้ พึ่งพาอาศัย บังแดด บังลมพายุ และสื่อสารกันทางระบบรากโดยยอดไม้จะอยู่ต่างระดับไล่กันไปตามความต้องการรับแสงอาทิตย์

2. ปลูกต้นกล้าที่เพราะจากเมล็ด (Potted Seedling)

การปลูกต้นไม้จากต้นกล้าขนาดเล็กที่เพาะจากเมล็ดจะทำให้ต้นกล้ามีระบบรากแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันมียีนส์ที่แข็งแรง ไม่กลายพันธุ์ ต้นไม้สามารถปรับตัวอยู่กับสภาพแวดล้อมได้ดีส่งผลให้ต้นไม้สามารถเติบใหญ่แข็งแรงทนต่อแมลงและศัตรูพืชได้ดีด้วยเช่นกัน

3. พันธุ์ไม้ท้องถิ่นดั้งเดิม (Native Species)

หัวใจสำคัญของการปลูกป่ามิยาวากิคือพันธุ์ไม้นอกจากจะต้องเป็นต้นกล้าที่มีรากแก้วที่สมบูรณ์แล้วจะต้องเป็นพันธุ์ไม้ในท้องถิ่นนั้นๆด้วยเพื่อให้เกิดสังคมพืชในระบบนิเวศตามโครงสร้างป่าที่แท้จริง ต้นไม้ท้องถิ่นจะสามารถทนต่อสภาพดินและสภาพอากาศในพื้นที่ได้ดี ปรับตัวง่ายและรับมือกับศัตรูพืชได้ดีกว่า ป่ามิยาวากิในแต่ละพื้นที่จึงจะมีพันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่เป็นสังคมพืชในท้องถิ่นนั้นเป็นหลัก 

4. ความถี่ 1 ตารางเมตรปลูกต้นไม้ 4 ต้น (Dense Planting)

ความถี่ของต้นไม้ในพื้นที่ 1 ตารางเมตรจะต้องปลูกกล้าไม้ที่เป็นตัวแทนของพันธุ์ไม้โครงสร้าง ทั้ง 4 ชั้นเรือนยอดไล่ระดับคละชนิดพันธุ์กันตามแบบฉบับที่ป่าธรรมชาติ ไม่เป็นระเบียบ เสมือนเกิดขึ้นเอง โดยไม่ปลูกซ้ำชนิดในแปลงเดียวกันจะสร้างสังคมต้นไม้ให้เกิดการเกื้อกูลพึ่งพิงกันและแข่งขันกับเติบใหญ่ทำให้เกิดป่าที่สมบูรณ์ได้เร็วกว่าการปลูกต้นไม้แบบทั่วไป 

5. สร้างดินให้เป็นเนิน (Mound Making)

การสร้างเนินดินจะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวดินให้สามารถปลูกกล้าได้ปริมาณเพิ่มขึ้น ช่วยระบายน้ำได้ดีและช่วยให้รากต้นไม้ได้อากาศ เนินดินยังทำให้เกิดภูมิทัศน์สวยงามเล่นระดับทางสายตาได้ด้วยซึ่งไม่ต่างจากโครงสร้างภูเขาที่มีป่าธรรมชาติปกคลุม 

6. คลุมดินรักษาความชุ่มชื้น (Mulching)

การสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อให้ต้นไม้เติบโตได้ดีเองเริ่มจาก ‘ดิน’ นอกจากจะต้องเตรียมดินให้มีธาตุอาหารสำหรับให้พืชเติบโตแล้วยังต้องรักษาความชุ่นชื้นให้หน้าดินโดยการคลุมด้วยฟางข้าว เศษใบไม้เศษหญ้า เพื่อให้อินทรีย์วัตถุเหล่านี้ย่อยสลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติต่อไป

7. ต้นกล้าต้องสมบูรณ

รากฐานสำคัญในการปลูกป่าคือปลูกด้วยต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ดทำให้มีรากแก้วซึ่งต้นกล้าที่ได้จะเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงเพื่อเป็นป่าที่สมบูรณ์ การปลูกป่ามิยาวากิจึงควรคัดเลือกเมล็ดต้นกล้าที่สมบูรณ์ไม่แคระแกรนวิธีเลือกต้นกล้าที่แข็งแรงนั้นจะพิจารณาจากระบบรากที่แข็งแรงเป็นหลัก อาจจะมีความสูงประมาณ 60-80 ซม.กล้าไม้ท้องถิ่นจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ได้ดี ทนทานต่อโรคและแมลง มีความแข็งแรงกว่าไม้นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงมาในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง ทนแดดทนฝนตามธรรมชาติ 

8. ช่วง 2 – 3 ปีแรกต้องดูแลใส่ใจ

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้การปลูกป่ามิยาวากิประสบความสำเร็จ คือ ‘การดูแลเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน’ ที่เราต้องใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์มาเพาะ การดูแลระบบรากของกล้าไม้ไม่ให้ช้ำตลอดระยะเวลาการขนส่งและมีเทคนิคการปลูกที่ปราณีต รวมทั้ง ในช่วง 2-3 ปียังจำเป็นจะต้องดูแลกล้าไม้ทั้งการรดน้ำคลุมดินการกำจัดวัชพืช รวมถึงโรคแมลง และตัดแต่งลิดกิ่งเปิดให้แสงส่องถึงในบางพื้นที่เพื่อให้ไม้ระดับล่างยังคงได้แสงเพื่อการเติบโตทำให้อัตราการรอดตายสูงถึง 95%

ลองมาสัมผัส “Imagine Happiness – ความสุขที่แท้จริง” กับผืนป่ามิยาวากิ ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (The Forestias by MQDC) ที่ได้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของมิกซ์ยูส (Mixed-Use) โครงการเมืองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและพื้นที่กิจกรรมส่วนกลางที่ทุกๆ คนสามารเข้ามาร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็น โครงการที่อยู่อาศัย ร้านค้า พื้นที่สำนักงาน โรงแรม 6  ดาว  ศูนย์การแพทย์และสุขภาพ ศูนย์วัฒนรรมชุมชน สถาบันการศึกษา และพื้นที่สีเขียวอันเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างสังคมแห่งความสุขและมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่สร้างโครงการป่าในเมือง แต่ที่นี่ยังเตรียมระบบให้พร้อมสรรพ เพื่อสร้างความสุข และความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

About the Author

Share:
Tags: MQDC / บางนา / ป่ามิยาวากิ / theforestias / DTGO / สิ่งแวดล้อม / เพื่อสังคม /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ