“งานแสดงนวัตกรรมเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ชุมชน ในงาน PTT Group Innovation for Future Society 2023 ตอกย้ำความมุ่งมั่นดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม”
กลุ่ม ปตท. ร่วมสร้างรอยยิ้ม สู่ชุมชน ผ่านการดำเนินงาน Smart Farming, Smart Marketing และ Community-Based Tourism ประสบความสำเร็จ เพิ่มรายได้แก่ชุมชน สร้างฝันที่เป็นจริง
ร่วมจุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน กับกลุ่ม ปตท. 7 บริษัท ยกนวัตกรรมและองค์ความรู้เพื่อชุมชนมาจัดแสดงในงาน “PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน” ในระหว่างวันที่ 14 – 15 พฤศจิกายน 2566 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ช่วยสานฝัน จุดประกายความคิด ให้กับวิถีชีวิตชุมชนที่เชื่อในพลังของภูมิปัญญาท้องถิ่น เชื่อในวัตถุดิบคุณภาพที่มีอยู่ในพื้นที่ และต้องการพัฒนาผลผลิต สินค้า บริการให้ได้มาตรฐาน มีความน่าสนใจ เข้าถึงตลาดในอีกระดับ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทใน กลุ่ม ปตท. ผู้นำชุมชนและสมาชิกชุมชนจาก 45 พื้นที่เครือข่าย รวมถึงเยาวชนจากโครงการ Restart Thailand เข้าร่วมงาน ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ โดยนายอรรถพลได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า
“โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ ปตท. และบริษัทในกลุ่มรวมพลังกันเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนำนวัตกรรม องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทมาพัฒนาชุมชนเครือข่าย 45 ชุมชน ใน 29 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทชุมชนใน”
บรรยากาศภายในงาน “รอยยิ้มของชุมชน และผู้สร้างนวัตกรรม”
การจัดงาน “PTT Group Innovation for Future Society 2023 จุดพลังสร้างอนาคต ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรมและผลสำเร็จของโครงการฯ ผ่านพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 3 โซน ประกอบด้วย
โซนที่ 1 นวัตกรรมเพื่อชุมชน โดย กลุ่ม ปตท. และพื้นที่เรียนรู้ชุมชน
โซนที่ 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน
โซนที่ 3 ตลาดนัดชุมชน
การเสวนาแบ่งปันประสบการณ์บนเวที
บนเวทีเสวนาจะมีการพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ในการดำเนินโครงการฯ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรภายนอก อาทิ คุณสรกล อดุลยานนท์ “หนุ่มเมืองจันทร์” เจ้าของสวนสันติเกษตรอินทรีย์ เป็นผู้ดำเนินเวที และมีผู้ประกอบการในชุมชนที่ประสบความสำเร็จอย่าง คุณชารีย์ บุญญวินิจ จาก ฟาร์มลุงรีย์ Uncle Ree Farm คุณนิพนธ์ พิลา จาก พิลาฟาร์มสตูดิโอ คุณจรงศักดิ์ รองเดช จาก ภัตตาคารบ้านทุ่ง และคุณธราณิศ ประเสริฐศรี Co-Founder Technical จาก Varuna สตาร์ทอัพสายเขียวเกษตรกรยุคใหม่ มาร่วมเติมเต็มเรื่องราวการพัฒนาชุมชนที่น่าสนใจอีกด้วย
ความมั่นคงทางด้านพลังงาน ต้องเติบโตไปกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ได้กล่าวว่า
“กลุ่ม ปตท.จะยืนหยัดมุ่งมั่นดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ พร้อมพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ปตท. ได้นำส่งรายได้เข้ารัฐเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ นับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน (9 เดือนแรกของ ปี 2566) ในรูปแบบภาษีเงินได้และเงินปันผล แล้วกว่า 1.21 ล้านล้านบาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและชุมชน ทั้งในกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ทั้งด้านการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง การแก้ปัญหาภัยพิบัติ การส่งเสริมการศึกษา”
3 นวัตกรรมหลัก สร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.
Smart Farming
นำนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพมาใช้ เพื่อยกระดับในเรื่องการทำเกษตรกรรม
Smart Marketing
เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยการแปรรูปและสร้างมาตรฐานให้ผลิตภัณฑ์ ช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่ชุมชน
Community-Based Tourism
ส่งเสริมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามอัตลักษณ์ของท้องถิ่น โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และมีการประชาสัมพันธ์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้า
สร้างทักษะ เสริมองค์ความรู้ เพิ่มงาน เพิ่มรายได้
โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้มของกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมแก้ปัญหาการว่างงาน โดยจ้างบัณฑิตจบใหม่ผ่านโครงการ Restart Thailand กว่า 280 อัตรา เพื่อให้เป็นพลังร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ พัฒนาและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชุมชนบ้านเกิดซึ่งเป็นโอกาสให้เยาวชนที่จบใหม่และอยู่ในพื้นที่โครงการฯได้มีโอกาสทำงานร่วมกับท้องถิ่นและสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากกลุ่ม ปตท. มาพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดได้ด้วย นับเป็นผลสำเร็จของการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ช่วยให้ชุมชนในพื้นที่สามารถต่อยอด และพึ่งพาตนเองต่อไปได้ คือความสำเร็จที่ ปตท. ภาคภูมิใจ หลังจากที่ได้ดำเนินโครงการฯ มาตลอดระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2564-2566
จุดประกายความคิด จากนวัตกรรม องค์ความรู้ เพื่อนำไปต่อยอด
ในงานนี้ได้มีการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ของ กลุ่ม ปตท. รวมถึงองค์ความรู้ของชุมชนที่เกิดขึ้นในโครงการฯ พัฒนาเป็น “จุดเรียนรู้” 12 พื้นที่ มาช่วยจุดประกายให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้นำไปประยุกต์ใช้ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การท่องเที่ยวในชุมชน การดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กับการสร้างรายได้ เพื่อช่วยขยายพื้นที่แห่งความสำเร็จ ช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้ต่อไปเพราะทุกชุมชนคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมาพบว่า ทุกชุมชนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากฐานรายได้เดิม ร้อยละ 10 โดยได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้นมา รวม 45 รายการ และได้พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนจำนวน 6 พื้นที่ รวมถึงชุมชนมีทักษะและศักยภาพที่สามารถดำเนินการและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งผลสำเร็จจากโครงการจะลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป