นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 6
เรื่อง: นิภาพร ทับหุ่น
ภาพ : จักรพันธ์ สังขาว, ทัศพล ว่องกิตติพงษ์
เสียงหัวเราะที่
“เกาะทะลุ”
มีใครเคยเห็นรอยยิ้มของหอยมือเสือบ้าง แล้วเสียงหัวเราะของเต่ากระล่ะ เคยได้ยินกันบ้างไหมนี่ไม่ใช่คำถามยียวนกวนประสาทแต่อย่างใดเพียงแต่จะบอกว่า ทุกคนสามารถสัมผัสความรู้สึกของสัตว์ทั้ง ๒ ชนิดนี้ รวมถึงพรรคพวกในท้องทะเลได้เมื่อมายืนสูดลมหายใจอยู่บน เกาะทะลุ เกาะเล็กๆ ที่มีแต่ “ความรักษ์”
เกาะทะลุ ในเขตอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทย บอกอย่างนี้อาจมีคนไม่เชื่อล่ะสิ แต่ถ้าลองสังเกตปริมาณนักท่องเที่ยวที่ดำาผุดดำาว่ายอยู่รอบเกาะเกือบ ๓,๐๐๐ ชีวิตในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่กล่าวนั้นไม่ใช่คำเอ่ยอ้างที่เกินจริงแต่อย่างใด
เกาะกลางทะเลแห่งนี้อยู่ห่างจากแผ่นดินไม่ไกลนัก จริงๆ ลักษณะของเกาะดูคล้ายปลาวาฬ แต่เหตุที่ใช้ชื่อ “ทะลุ” นั้น เพราะปลายแหลมด้านหนึ่งของเกาะมีแนวหินที่ถูกนำ้ากัดเซาะจนเกิดช่องเขาทะลุดังชื่อ
โลกใต้ทะเลของเกาะทะลุงดงามถึงขนาดที่มีนักดำนำ้ทั้งตื้นและลึก ยกให้เกาะทะลุเป็น ๑ ในปลายทางที่ต้องไป แต่กว่าจะสวยสดใสแบบนี้ได้ เกาะทะลุเคยมีสภาพคล้าย “สุสานสัตว์ทะเล” มาก่อน
“เมื่อก่อนผมกับภรรยาพายเรือไป ปรากฏว่าไปเจอปะการังเขากวาง ปะการังแปรงล้างขวดมันหัก แล้วมันยังมียางยืดเหนียวๆ ยังไม่ตายเราก็เก็บใส่เรือ พายเรือไปปักบนปะการังกลมๆเตี้ยๆ ผมเอาเหล็กไปทิ่มๆ เอาปะการังไปเสียบ
ตรงนั้นก็หัก ผมก็ไปเสียบอีก แล้วลืมๆ ไป ๖-๗ เดือนมันกลับมีปะการังงอกขึ้นมาใหม่ผมก็ว่า มันงอกเว้ย มันโตนี่หว่า ก็เลยทำมาตลอด แล้วเมื่อก่อนผมเป็นคนชอบลงน้ำดำน้ำ เวลาน้ำลงสุดๆ เราจะได้เห็นอะไรเยอะเราจะเห็นหอยมือเสือคาอยู่บนหิน ก็ยกหอยมือเสือลงไปวางในน้ำ เจอปลิงทะเล ก็โยนลงไป ผมจะเดินเลาะหินตลอด ทุกเช้า ไปเจอปะการังที่โผล่ๆ ผมก็จะยกปะการังลงไปให้จมน้ำลึกๆ ผมจะทำเป็นกิจวัตร จนลูกน้องบอกเพี้ยนหรือเปล่า (หัวเราะ)”
ปรีดา เจริญพักตร์ ผู้ถือสิทธิ์ครอบครองเกาะทะลุอย่างถูกกฎหมายเล่าให้ฟังว่า จากอดีตที่เคยทำผิดต่อธรรมชาติ คือทำประมงแบบฉวยโอกาส ต่อเมื่อสัตว์น้ำลดจำนวนลงเรื่อยๆ รายได้หดหาย เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเรา “เบียดเบียน” ธรรมชาติเกินไปแล้ว จากนั้นเป็นต้นมา ลุงปรีดาก็ตั้งปณิธานไว้กับตัวเองว่า จะต้องรักษาและเพิ่มประชากรทางทะเลให้ได้มากที่สุด