นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 16
เรื่อง: นิภาพร ทับหุ่น
ภาพ: จักรพันธ์ สังข์ขาว
พิสุทธิ์ใส
ณ ปลายขอบฟ้า
ถ้าจะมีสถานที่สักแห่งที่เป็นดั่งสวรรค์ของคนรักทะเล ชื่อ “หลีเป๊ะ” คงไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะไม่ว่าจะเป็นฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่ในสายน้ำ สีฟ้าสะอาดใส ผืนทรายที่ละเอียดขาวราวกับผงแป้ง สายลมพัดพามาพร้อมกับแสงแดดอันร้อนแรง ต่างๆ เหล่านี้ส่งให้หลีเป๊ะ กลายเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แล้วจะแปลกอะไรถ้าใครๆจะยกให้หลีเป๊ะเป็นปลายทางที่ควรค่าแก่การไปเยือนที่สุด
เกาะเล็กๆ ที่มีความยาวจากหัวถึงท้ายเกาะราว ๓ กิโลเมตร และกว้างเพียง ๑.๗๕ กิโลเมตรนั้น มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “หลีเป๊ะ” หรือ “เกาะกระดาษ” ในความหมายของชาวเลตั้งแต่อดีต ซึ่งลักษณะของเกาะในทะเลอันดามันแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ ชาวเลจึงเรียกติดปากแบบนั้นเรื่อยมา
เกาะหลีเป๊ะ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ซึ่งอยู่ปลายสุดทางตอนใต้ของประเทศไทย ว่ากันถึงชื่อตะรุเตา คำคำนี้เพี้ยนมาจาก “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู ที่แปลว่า “มีอ่าวมาก” และถ้าลองนับเฉพาะบนเกาะตะรุเตาก็เห็นจริงตามนั้น เพราะอย่างน้อยก็มีชื่ออ่าวชัดเจนมากถึง ๕ แห่ง
วันนี้ของตะรุเตากลับมาสดใสโสภา เพราะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทยทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจยูเนสโกจึงยกย่องให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียนเมื่อปี ๒๕๒๕
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อตะรุเตากันมาบ้างแล้ว บ้างเคยรับรู้ว่าเป็น “คุกกลางทะเล” ที่โหดแสนโหด หรือบ้างก็เคยได้ยินว่าเป็นถิ่น “โจรสลัด” ฟังแล้วน่ากลัว แต่ทั้งหมดคือภาพในอดีตที่หม่นหมอง ทว่าวันนี้ของตะรุเตากลับมาสดใสโสภาเพราะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆของประเทศไทย ทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ยูเนสโกจึงยกย่องให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน เมื่อปี ๒๕๒๕
พื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาครอบคลุมเกาะน้อยใหญ่ไว้มากมาย แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นก็คือไข่มุกอันงดงามที่ชื่อหลีเป๊ะ เกาะเล็กๆ ที่มีชายหาดหลักๆ เพียง ๓ แห่ง คือหาดซันเซ็ท หาดซันไรซ์ และหาดบันดาหยาหรือที่ทุกคนเรียกติดปากว่า “หาดพัทยา”
แต่ละหาดล้วนสะท้อนภาพลักษณ์ที่ตรงตัวแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดซันไรซ์ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของหลีเป๊ะ ในอดีตชาวบ้านเรียกหาดนี้ว่า “หาดชาวเล” เพราะเป็นหาดที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ส่วนหาดซันเซ็ท หรือ “หาดประมง” ในชื่อเดิม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ จัดว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกที่สุดเลยทีเดียว
การให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนมาใช้เรือหางยาวเล็กๆ อาจทำให้ทุกคนต้องลำบากบ้าง แต่ก็ช่วยยืดลมหายใจให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนเกาะหลีเป๊ะได้ดี
สุดท้ายคือหาดบันดาหยา ถูกเรียกเพี้ยนมาอย่างตั้งใจว่า “หาดพัทยา” นั่นคงเป็นเพราะบรรยากาศที่คึกคัก มีสีสัน ทั้งยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ทั้งที่พักร้านอาหาร ร้านค้า และกิจกรรมนันทนาการหาดที่มีเม็ดทรายละเอียดขาวดังผงแป้งนั้นจึงได้รับความนิยมหนาแน่น
นักท่องเที่ยวจะไปเยือนเกาะหลีเป๊ะได้ต้องนั่งเรือเฟอร์รีหรือสปีดโบ๊ทจากแผ่นดินออกไป แต่ก่อนขึ้นเกาะหลีเป๊ะทุกคนจะต้องเปลี่ยนมาใช้บริการเรือหางยาวที่โป๊ะกลางน้ำเพื่อข้ามไปยังเกาะ เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะรอบๆ หลีเป๊ะมีปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์มากหากสร้างท่าเทียบเรือริมหาดหรือปล่อยให้เรือขนาดใหญ่ลุยน้ำเข้าไปอาจส่งผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ใต้ทะเลได้ การจัดการด้วยการให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนมาใช้เรือหางยาวเล็กๆอาจทำให้ทุกคนต้องลำบากบ้าง แต่ก็ช่วยยืดลมหายใจให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนเกาะหลีเป๊ะได้ดี
ความที่เป็นเกาะขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินชมธรรมชาติเพื่อสัมผัสทุกอณูของความเป็นเกาะได้อย่างง่ายดาย เพราะหาดทุกหาดสามารถเดินเชื่อมกันได้ ใครชอบชีวิตสโลว์ไลฟ์อาจใช้เวลาละเลียดเนิ่นนาน แต่สาวกสน็อกเกิลลิงทั้งหลายนั้นคงพร้อมใจกันสวมชุดดำน้ำแล้วนั่งเรือไปยังจุดดำน้ำสำคัญต่างๆ ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา “ร่องน้ำจาบัง” เป็นหมุดหมายแรกๆ ที่นักเดินทางผู้ชื่นชอบการดำน้ำปรารถนาเพราะบริเวณนี้มีของดีที่เรียกว่า “ปะการังเจ็ดสี” ให้ชม เมื่อคลื่นลมเป็นใจและท้องฟ้าสดใสก็จะส่งให้เห็นความเคลื่อนไหวที่พัดพลิ้วอยู่
ลึกลงไปในน้ำ นั่นคือความงามที่ติดตราตรึงใจจนไม่อาจมีใครปฏิเสธได้ว่า นี่คือที่สุดของทะเลไทยในละแวกใกล้ๆ กันมี “เกาะหินงาม” ที่หินทุกก้อนมีสีดำมันวาวราวกับหลุดออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน ส่วนด้านหลังคือ “เกาะยาง” ที่เป็นจุดดำน้ำสำคัญอีกแห่งบริเวณนี้สามารถชมปะการังน้ำตื้นได้ดีไม่แพ้กัน แต่ถ้าใครอยากเห็นความมหัศจรรย์ของหินซ้อนกันแบบมหึมาต้องมาชมที่ “เกาะหินซ้อน” ซึ่งอยู่ใกล้ๆ “เกาะรอกลอย” จุดดําน้ํา ที่มีแหลมสามเหลี่ยมยื่นลงไปในทะเล เหมาะแก่การเดินเล่นหย่อนใจ แต่ก็คงไม่เบิกบาน เท่ากับ “เกาะราวี” ที่มีหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวไปไกลสุดสายตา
บนเกาะราวีนอกจากจะมีผืนทรายที่ละเอียดขาวนุ่มเท้าแล้ว ขอนไม้ผุพังกลางหาดทรายก็ถือเป็นองค์ประกอบจากธรรมชาติ ที่ทําให้ได้ภาพที่งดงามแปลกตา ที่นี่จึงมีนักท่องเที่ยวมา “แชะ” แล้ว “แชร์” ภาพกันอย่างหนาตามาก
เกาะราวีถือเป็นเกาะฝาแฝดกับ “เกาะอาดัง” ที่อยู่ไม่ไกล แต่ที่เกาะนั้นสามารถพัก แรมได้ เพราะมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตาที่ ต.ต.๕ (แหลมสน เกาะอาดัง) ตั้งอยู่ ส่วนเกาะราวีไม่มีที่พักและไม่อนุญาตให้ค้างแรม
จุดท่องเที่ยวที่สําคัญอีกแห่งของทะเล อันดามันแถบนี้คือ “เกาะไข่” ที่นักท่องเที่ยว นิยมลงไปถ่ายภาพกับ “ซุ้มประตูหินรัก นิรันดร์” ที่เป็นประตูหินโค้งงามตาม ธรรมชาติ เชื่อกันว่า ถ้าคู่รักมาถ่ายรูปที่ซุ้ม ประตูนี้ด้วยกัน ความรักจะนิรันดร์ยืนยาว แต่บางครั้งต้องทําใจ เพราะเรือหลายลําอาจจะไม่จอดให้นักท่องเที่ยวลงไปที่เกาะไข่เนื่องจากมีเวลาไม่มากพอ
แม้จะท่องทะเลอันดามันอย่างจุใจ แต่ หลายครั้ง นักท่องเที่ยวหลายคนก็ยังไม่เบื่อ หน่ายกับการกลับมาเสพสัมผัสธรรมชาติที่เกาะหลีเป๊ะ เพราะถ้าว่ากันตามจริง ที่นี่มีเสน่ห์ และควรค่าแก่การไปยืนชื่นชมพระอาทิตย์ ในยามพ้นขอบฟ้าและลาแผ่นดินที่สุด