“หากท่านคณะกรรมการเห็นชอบให้ผลงานชิ้นนี้ร่วมแสดงนิทรรศการ ขอยกมือรับรองด้วยครับ”
เสียงของผู้ดำเนินการตัดสินดังกังวาล หลังได้รับการรับรองจึงขานว่า “ชิ้นนี้ร่วมแสดงครับ” ตามด้วย “ผ่านค่ะ”

บรรยากาศการคัดเลือกผลงานศิลปกรรมเกือบพันชิ้นเพื่อตัดสินผู้ได้รับรางวัล ทั้งประเภทจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม ดิจิทัลอาร์ต 2 มิติ และทัศนศิลป์อื่น ๆ ที่ศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ทุ่มเทสร้างสรรค์ส่งเข้าร่วมการประกวดศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 40 ในหัวข้อ “เติบโต สมดุล ยั่งยืน” ที่ทยอยนำส่งมา ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ 6 รอบพระชนมพรรษา ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนั้น เริ่มต้นขึ้นในเช้าวันที่ 22 มิถุนายน 2568
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะระดับประเทศและนานาชาติ นำโดยประธาน อาจารย์ ธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ สาขา ทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2553 และคณะกรรมการร่วม 10 ท่านประชุมแนวทางการคัดเลือกและตัดสินผลงาน โดยมีรองศาสตราจารย์วิรัญญา จิราธิกิตต์ ผู้อำนวยการหอศิลป์ สำนักศิลปวัฒนธรรม และการสร้างสรรค์แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้อ่านรายงาน และ 2 ผู้บริหารจากบริษัท ปตท. จำกัด มหาชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
“เยาวชนและศิลปินได้สร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างเวทีโอกาสให้ศิลปินทุกระดับ ปตท. และทุกภาคส่วนร่วมจัดโครงการประกวดศิลปกรรมปตท. ในทุกปีเด็กทั่วประเทศจะรอคอยหัวข้องานประกวด และตั้งใจทำที่สุด เทคนิคมีการพัฒนาดีตามลำดับ ผลงานดีขึ้นตามลำดับ ขอบขอบคุณทางปตท ที่จัดอย่างต่อเนื่อง” อ. ธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2553 ประธานคณะกรรมการคัดเลือกและตัดสินผลงาน PTT Art Awards กล่าว


ผลงานส่วนใหญ่ถูกวางเรียงภายในศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ บางชิ้นที่เป็นงานประติมากรรมขนาดใหญ่มีจัดเรียงทั้งในและนอกอาคาร ส่วนงานดิจิตอล 2 มิตินั้น เปิดพิจารณาจากจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 2 จอ
กรรมการแต่ละท่านจะมีกล่องสีฟ้าใส่ลูกเต๋ากระดาษเดินชมผลงานที่ถูกจัดแยกไว้ตามกลุ่มอายุ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มอายุต่ำกว่า 9 ปี กลุ่มอายุ 9 – 13 ปี กลุ่มอายุ 14 – 18 ปี และกลุ่มประชาชนทั่วไป เมื่อผลงานใด “เข้าตากรรมการ” ลูกเต๋ากระดาษเล็ก ๆ นี้จะไปวางตรงผลงานชิ้นนั้น เพื่อรอเข้าในรอบการตัดสินผลงาน “รอบคัดเลือก” ต่อไป
ช่วงบ่ายนั้นการดำเนินการคัดเลือกผลงาน “รอบตัดสิน” มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น ผลงานที่เข้ารอบคัดเลือกจะถูกจัดเรียงอีกครั้ง เสียงผู้ดำเนินโครงการอ่านแนวความคิดจากใบสมัคร เสียงจากคณะกรรมการแลกเปลี่ยนความคิด แต่ละชิ้นงานนั้นที่ศิลปินสร้างสรรค์นั้น นอกจากสื่อความหมายตามโจทย์ ผลงานมีความประณีต สวยงามลงตัวทางสุนทรียศาสตร์แล้ว ต้องส่งเสริมให้ผู้ชมผลงานมีจินตนาการร่วมอีกด้วย การได้รับการพิจารณาผลงานเข้าร่วมแสดงนิทรรศการ หรือการรับรางวัล ถือเป็นเกียรติประวัติของศิลปิน สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาของตนเองให้ดีขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป
ทางอนุรักษ์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์มุมมองของคณะกรรมการตัดสินผลงานการประกวดศิลปกรรมปตท. ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะในวงการศิลปะทั้งในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ศิลปินทุ่มเทตลอดปีในการฝึกฝน สร้างสรรค์พัฒนาผลงานต่อไป

จุดเด่นของเวทีประกวดศิลปกรรมปตท.
“ครบวาระครบรอบ 40 ปี หัวข้อเรื่องจึงเปรียบเหมือนการจัดการประกวดศิลปกรรมของปตท. ที่ยาวนาน มีหัวข้อเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไปแต่ไม่อิสระ หัวข้อสัมพันธ์กับบริบทกับสังคมในช่วงนั้น เช่น สถาบันพระมหากษัตย์ ความรักชาติ ความสามัคคี พลังงาน สถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์โลกด้วย” ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2552
“‘งานประกวดศิลปกรรมปตท. จะมีหัวข้อที่น่าสนใจในทุก ๆ ปี เหมือนจดหมายเหตุบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีที่สองที่มีการประกวดผลงานดิจิตอล 2 มิติซึ่งมีการพัฒนาทางด้านเทคนิคหลากหลายมากยิ่งขึ้นครับ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.เกรียงไกร กงกะนันท์

หัวข้อ “เติบโต สมดุล ยั่งยืน”
“หัวข้อความหมายลึกซึ้ง เยาวชนเรามีความสามารถในการใช้เครื่องมือดิจิทัล ก้าวไปตามปัจจุบันได้ เราจะทำอย่างไรให้สังคมเจริญเติบโต มีความสมดุล และยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ต้องช่วยกันสืบทอด ศิลปะจึงเป็น Soft Power อย่างหนึ่ง” ศาสตราจารย์เกียรติคุณญาณวิทย์ กุญแจทอง

ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2552 คณะกรรมการตัดสินผลงานการประกวดศิลปกรรมปตท. ซึ่งท่านได้เห็นถึงความเติบโตและความเปลี่ยนแปลงตลอด 40 ปีผ่านมา ทั้งในการพัฒนาของศิลปินที่ผลงานเข้าประกวดให้ความเห็นว่า
“สมัยก่อนมีการจัดการประกวดศิลปกรรมไม่กี่เวที ปตท.เป็นองค์กรที่สนับสนุนการจัดประกวดงานศิลปกรรมมายาวนานต่อเนื่องกว่า 40 ปี หัวข้อ “เติบโต สมดุล ยั่งยืน” ถือว่าเกี่ยวเนื่องกับปตท. ที่เติบโตก้าวหน้าขึ้นมา ไม่เคยเว้นการจัดงานแม้แต่ในช่วงโควิด สมัยก่อนส่วนใหญ่เป็นงานจิตรกรรมแบบ 2 มิติ ใช้สีต่าง ๆ ในการทำงานศิลปะ มาในช่วง 10 ปีต่อมา งานศิลปกรรมไม่ได้จำกัดอยู่ที่ 2 มิติอีกต่อไปแล้ว เริ่มมีใช้วัสดุหรือวัตถุต่าง ๆ บางคนทำเป็นประติมากรรมหรือสื่อผสม มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามา มีแสงไฟ เป็นต้น ถือว่าเป็นการเจริญเติบโตไปตามวาระ
อันนี้แหละเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปกรรมในยุคปัจจุบัน อย่างการตัดสินวันนี้ ผลงานศิลปกรรมที่ส่งเข้ามาทำให้คณะกรรมการรู้สึกตื่นเต้น ศิลปินบางคนที่ส่งผลงานต่อเนื่อง กรรมการเองก็ติดตามทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัว แต่เมื่อกรรมการดูผลงานก็ได้เห็นการพัฒนาของศิลปิน”
และในความสำคัญของงานประกวดศิลปกรรมปตท.ที่มีต่อวงการศิลปะไทยนั้น อาจารย์กล่าวเสริมว่า
“ปตท.เป็นองค์กรที่สนับสนุนการประกวดศิลปกรรมมายาวนานกว่า 40 ปี ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมตั้งแต่ครั้งที่หนึ่งสมัยยังเป็นหนุ่มอยู่เลย กล่าวได้ว่างานศิลปกรรมปตท.ได้บ่มเพาะศิลปิน และสร้างคนที่รักงานศิลปะมากมาย มีศาสตราจารย์บ้าง คณบดีบ้าง เป็นอาจารย์ บางท่านก็เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลในต่างประเทศระดับนานาชาติ รวมไปถึงหลากหลายอาชีพที่ใช้ศิลปะในวิชาชีพ เช่น หมอ วิศวกร เป็นต้น”

คำแนะนำสำหรับศิลปินรุ่นเล็กในการเตรียมตัวจากดร. สังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์สิรินธร จ. เลย คณะกรรมการตัดสิน
“อยากให้พัฒนาแนวคิด ฝึกฝนฝีมือบ่อย ๆ และต่อเนื่อง ด้วยความสนุกตามธรรมชาติของเด็กจะสร้างสรรค์แบบใหม่ ๆ ที่สำคัญคือ ตีโจทย์ให้ชัดเจน งานประกวดนี้ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีการประเมิน ถึงไม่ได้รับคัดเลือกก็ไม่ได้เป็นการตัดสินว่า เราเป็นผู้ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ สิ่งสำคัญ คือ การได้แสดงออกให้ผู้อื่นรับรู้ชื่นชม ส่วนรางวัลนั้นถือเป็นของแถม ขอเชิญชวนให้สร้างสรรค์เต็มที่ กล้าสื่อสารให้ผู้ที่ชมงานศิลปะได้เข้าใจแนวคิด”
ชมวีดีโอสัมภาษณ์และบรรยากาศในวันตัดสินผลงานแล้ว ขอเชิญให้กำลังใจศิลปินและชมผลงานนิทรรศการได้ที่ PTT Art Gallery ณ บ้านเจ้าพระยา ท่าพระอาทิตย์ ในเดือนสิงหาคมตามตารางดังนี้
สิงหาคม – กันยายน 2568 ชมผลงานที่โดดเด่นได้รับเลือกให้ร่วมแสดงนิทรรศการ จำนวน 107 ผลงาน และ สิงหาคม 2568 ชมผลงานที่ได้รับรางวัล จำนวน 40 ผลงาน